คิดเร็วแต่ไม่ลึก? ฝึก Thinking Acumen ทักษะ “คิดให้เฉียบ” ที่คนทำงานยุค AI ต้องมี

คิดเร็วแต่ไม่ลึก? ฝึก Thinking Acumen ทักษะ “คิดให้เฉียบ” ที่คนทำงานยุค AI ต้องมี

Business

4 นาที

01 ส.ค. 2025

แชร์

ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนเร็วด้วยเทคโนโลยี AI เราทุกคนกำลังถูกผลักให้ “คิดเร็ว ตอบไว” มากกว่าฝึก “คิดอย่างลึกซึ้ง” แต่ในความไวที่ได้มา ทำให้หลายคนเริ่มเผลอ “มองข้ามความเข้าใจที่แท้จริง” ของปัญหาและบริบท

แม้ Generative AI จะช่วยให้เราคิดงานไวขึ้น แต่สิ่งที่ยังขาด คือความสามารถในการ “ตั้งคำถามที่ใช่” และ “การเข้าใจบริบทที่ซับซ้อน” สิ่งเหล่านี้คือหัวใจของ Thinking Acumen หรือ ทักษะการคิดอย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง ซึ่งกำลังกลายเป็นความสามารถสำคัญที่มืออาชีพยุค AI ต้องมี

Thinking Acumen คืออะไร?

‘Acumen’ แปลตรงตัวว่า ‘ความเฉียบแหลม’ เมื่อรวมกับคำว่า ‘Thinking’ จึงหมายถึง ทักษะความสามารถในการคิดอย่างเฉียบคม ลึก รอบด้าน แม่นยำ และเป็นระบบ” ไม่ใช่แค่คิดเร็ว แต่คือ “คิดให้ขาด”

คนที่มี Thinking Acumen จะไม่รีบสรุป ไม่เชื่อเฉพาะสิ่งที่เห็น แต่รู้จักตั้งคำถามที่ดี แยกแยะปัญหาเป็นส่วนย่อย ๆ ให้ชัด และเลือก “มุมคิด” หรือ “หมวกความคิด” ที่เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ

ท่ามกลางยุคข้อมูลล้น ถ้าความคิดของเรายังวนอยู่กับแค่ผิวเผิน อาจถูกแทนที่โดยไม่รู้ตัว ส่วนคนที่คิดลึก แยกแยะเป็น และกล้าใช้วิจารณญาณ จะไม่ถูก AI แทนที่ง่าย ๆ และจะเป็น “ผู้ใช้ AI อย่างชาญฉลาด” ที่สร้างคุณค่ามากขึ้นกว่าเดิม

3 เครื่องมือพัฒนา Thinking Acumen ให้คิดได้ลึกขึ้นกว่าเดิม

Thinking Acumen

Thinking Acumen เป็นหนึ่งใน PROMPT Framework จาก True Digital Academy ที่ไม่ใช่เรื่องนามธรรม แต่สามารถฝึกได้จริง โดยใช้เครื่องมือคิดวิเคราะห์ที่ทั้งเรียบง่ายและทรงพลัง ได้แก่

1. 5 WHYs : ค้นหาต้นตอของปัญหา
เทคนิคคิดเชิงลึกที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Sakichi Toyoda ผู้ก่อตั้ง Toyota ในการถามคำว่า “ทำไม?” ซ้อนกันหลายชั้น (5 ครั้ง) เพื่อเจาะลึกถึงรากของปัญหาจริง ไม่ใช่แค่แก้ที่ปลายเหตุ

แนวทางการใช้ :
1. รวบรวมทีมที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหาร (Assemble a team)
2. ระบุปัญหาให้ชัดเจน (Identify the problem) อย่าพยายามแก้หลายปัญหาพร้อมกัน
3. ถาม “ทำไม?” อย่างตรงจุด โดยยึดตามข้อเท็จจริง ไม่ใช้อคติหรือความรู้สึก และแยกให้ออกระหว่าง “สาเหตุ” กับ “อาการ”
4. ถามต่อเรื่อย ๆ จนถึงต้นตอ อาจเกิน 5 ครั้งก็ได้ (อย่าหยุดเมื่อเจอคำตอบที่โทษคน เพราะส่วนใหญ่ปัญหาเกิดจากระบบ)
5. วางแผนป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ (Make an action plan)
6. ติดตามผลหลังการแก้ไข (Evaluate results)

ตัวอย่าง : ปัญหาจำนวนลูกค้าในร้านลดลง
🔹 ทำไมคนเห็นโฆษณาน้อยลง?
🔹 ทำไมแคมเปญไม่แสดงบน Search?
🔹 ทำไมบัญชีโฆษณาค้างชำระ?
🔹 ทำไมบัตรเครดิตหมดอายุแล้วไม่อัปเดต?
🔹 ทำไมไม่มีระบบตรวจสอบรายการที่ตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติ?

2. Issue Tree : แตกปัญหาให้เห็นทุกมิติ
เทคนิคที่ช่วยแยกประเด็นปัญหาใหญ่ ๆ ให้เป็นส่วนย่อยแบบมีโครงสร้าง ช่วยให้เห็นภาพรวมของปัญหา เพื่อวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างครอบคลุมและไม่ซ้ำซ้อน และรู้ว่าจะแก้จากจุดไหนก่อน โดยใช้หลัก MECE (Mutually Exclusive, Collectively Exhaustive)

แนวทางการใช้ :
🔹 แบ่งประเภทปัญหาเป็นหมวดหมู่ย่อยที่ไม่ซ้ำกัน
🔹 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าครอบคลุมปัญหาในทุกมิติ
🔹 จัดลำดับความสำคัญของแต่ละปัญหา

ตัวอย่าง: ปัญหารายได้ของบริษัทลดลงของธุรกิจสตาร์ทอัป
🔹 กลยุทธ์การตลาด : ออนไลน์ หรือ ออฟไลน์
🔹 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ : สร้างนวัตกรรมใหม่ หรือ ปรับของเดิม
🔹 การบริหารต้นทุน : ลดค่าใช้จ่าย หรือ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

การแยกย่อยแบบนี้จะช่วยให้เราไม่พลาดจุดสำคัญ รู้ว่าควรลงมือแก้จากด้านใดก่อน และลดการมองปัญหาแบบกระจัดกระจายหรือซ้ำซ้อน

3. Thinking Hats : เปลี่ยนมุมคิดเพื่อเห็นรอบด้าน

แนวคิดจาก Edward de Bono ที่เปรียบกระบวนการคิดเป็นการ “สวมหมวก” แต่ละสี เพื่อช่วยให้ทีมสามารถระดมสมองอย่างรอบด้าน ไม่ติดอยู่กับมุมมองใดมุมมองหนึ่ง

⚪️ ขาว – เน้นข้อมูล ข้อเท็จจริง เป็นกลาง
🔴 แดง – เปิดรับอารมณ์ ความรู้สึก สัญชาตญาณ
⚫ ดำ – วิเคราะห์ความเสี่ยง ข้อเสีย สิ่งที่อาจผิดพลาด
🟡 เหลือง – มองหาโอกาส จุดแข็ง ข้อดี
🟢 เขียว – กระตุ้นความสร้างสรรค์ เสนอไอเดียใหม่ ๆ มุมมองนอกกรอบ
🔵 น้ำเงิน – ควบคุมกระบวนการคิด สรุป วางกรอบการสนทนา

การมอบหมวกสีต่าง ๆ ให้กับแต่ละคนในการประชุม จะช่วยให้ทีมไม่ติดอยู่กับความคิดด้านเดียว ช่วยกระจายการคิด ลดการถกเถียงที่ไม่ก่อประโยชน์ และเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจในทีม

AI อาจคิดเร็ว แต่คนที่อยู่รอดในยุคนี้ต้อง “คิดให้ลึก”

ในโลกที่ AI ทำงานได้ไวขึ้นทุกวัน Thinking Acumen คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ยัง “เหนือกว่า” เพราะเป็นทักษะในการคิดให้ลึก ถามให้ใช่ และตัดสินใจได้แม่นยำ ซึ่งไม่ใช่ทักษะที่เรียนรู้ได้จากการอ่านหนังสือเพียงเล่มเดียว แต่เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน ผ่านการตั้งคำถาม การแยกแยะ การกล้าท้าทายสมมติฐานเดิม และการสังเกตอย่างลึกซึ้ง

5 WHYs – ถามให้ถึงราก
Issue Tree – แตกให้เห็นครบ
Thinking Hats – คิดรอบทุกมุม

เพราะผู้นำในยุคใหม่ จะไม่ใช่แค่ “คิดเร็ว” แต่ต้อง “คิดอย่างมีกลยุทธ์” ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเคย

หากคุณต้องการฝึก Thinking Acumen เพิ่มเติม หรืออยากใช้ AI ให้เป็น แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เราขอแนะนำ TDAI | Transform & Driving AI Impact for Success หลักสูตรผู้นำยุคใหม่ ที่ใช้ AI ได้จริง พร้อมขับเคลื่อนทีมและองค์กรให้พร้อมรับมือยุค Disruption สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truedigitalacademy.com/course/tdai

——
📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions
ติดต่อ [email protected]
หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)
——

Sources
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1037324521837363&set=pb.100066794732034.-2207520000&type=3
https://www.indeed.com/career-advice/career-development/5-whys-example
https://www.truedigitalacademy.com/blog/critical-thinking-in-ai-era-mece-and-issue-tree-framework
https://www.bitesizelearning.co.uk/resources/six-thinking-hats-technique


แชร์