📌สรุป 18 สาระสำคัญจาก session “Human + AI Collaboration: How Tech Supports, Not Replaces, HR” โดย คุณศิเวก สัจเดว Co-Founder, ServiceMind Asia Co.,Ltd. จากงาน THAILAND HR TECH Conference & Exposition 2025

จากจุดเริ่มต้นสู่อนาคตของ ChatGPT กับบทบาทใหม่ในชีวิตมนุษย์

1. ChatGPT เริ่มต้นจากคำถามง่าย ๆ สู่การปฏิวัติวงการ AI
Sam Altman – CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI เผยว่าไอเดียของ ChatGPT เกิดจากการสังเกตว่า คนส่วนใหญ่ใช้ GPT ในลักษณะถาม-ตอบคล้ายกับ Chatbot จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้าง ChatGPT เวอร์ชั่นต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อให้ AI ใช้งานได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น

2. พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป มักถาม AI ก่อนตัดสินใจเสมอ
โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z เวลาจะตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มักเริ่มต้นด้วยการถาม ChatGPT หรือ AI ก่อน จนเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมการทำงานและใช้ชีวิต

3. ปี 2025 ยุคของ AI Agent ที่เขียนโค้ดแทนคน
Sam Altman คาดว่า ปี 2025 จะเป็นปีของ “AI Agent” หรือผู้ช่วย AI ที่จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในสายงานที่ต้องใช้การเขียนโค้ด ใครที่สามารถสร้างหรือใช้ Agent เหล่านี้ได้ดี จะกลายเป็น “คนที่ได้เปรียบ”

4. ปี 2026 นวัตกรรมที่สร้างโดย AI จะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรม
ผลงานที่คิด วิเคราะห์ ออกแบบ และสร้างโดย AI ทั้งระบบจะเริ่มเผยโฉม เช่น การค้นคว้าตัวยารักษาโรคร้ายอย่างมะเร็งที่พัฒนาโดย AI ตั้งแต่ต้นจนจบ

5. ปี 2027 AI Robotics อาจเข้ามาอยู่ในบ้าน
AI Robotics จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นของใช้ในบ้านที่ช่วยงานบ้าน บริการ หรือดูแลผู้สูงอายุ เพิ่มคุณภาพชีวิตและผลิตภาพทางเศรษฐกิจ

6. OpenAI กำลังกลายเป็น Enterprise Solution Provider
OpenAI ไม่ได้หยุดพัฒนาที่โมเดล AI สำหรับบุคคลทั่วไป แต่ยังพัฒนาไปสู่โซลูชันแบบ “Enterprise” ที่ให้องค์กรใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่ HR, บัญชี ไปจนถึงการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์

7. AI as a Solution : ฝัง AI ในกระบวนการ ไม่ใช่แค่เครื่องมือ
AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือที่ใช้ชั่วคราว แต่ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบงาน เช่น ให้ AI อ่านใบสั่งซื้อ (PO) หรือเอกสารการขาย แล้วประมวลผลร่วมกับระบบบัญชีเดิมได้

ตัวอย่างกรณีศึกษาการใช้ AI เป็น Solution

8. AI ยกระดับ Customer Support
หนึ่งในกรณีศึกษาที่นำ Chatbot มาใช้ในงานบริการลูกค้า โดยองค์กรสามารถฝัง Chatbot เข้ากับฐานข้อมูล เพื่อให้ตอบคำถามลูกค้าแบบ real-time ช่วยลดภาระของทีมซัพพอร์ต และให้บริการลูกค้าได้เร็วขึ้น

9. AI ผู้ช่วยในระบบฟาร์ม ที่ทำงาน 24 ชั่วโมง
อีกกรณีศึกษาของการใช้ Chatbot ที่ถูกนำมาใช้ตอบคำถามที่ซ้ำ ๆ ในฟาร์ม เช่น วิธีการใช้อุปกรณ์หรือดูแลสัตว์ ช่วยลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มความต่อเนื่องในการดูแลระบบได้ตลอดเวลา

10. ระบบแจ้งซ่อมในคอนโดอัตโนมัติด้วย AI
กรณีศึกษาการนำ AI มาใช้ในระบบบริหารจัดการอาคาร เช่น การแจ้งซ่อม ที่สามารถสร้างใบงานอัตโนมัติ ระบุลำดับความสำคัญของปัญหา และติดตามสถานะได้ทันที เพิ่มความโปร่งใสในการให้บริการ

MCP (Model Context Protocol) เชื่อมต่อ AI เข้ากับเครื่องมือที่คุ้นเคย

11. MCP: การเชื่อม AI เข้ากับเครื่องมือที่ใช้อยู่ หนึ่งเทรนที่กำลังมาแรงในครึ่งปีหลัง
MCP (Model Context Protocol) คือการเชื่อมต่อ AI เข้ากับเครื่องมือที่คุ้นเคย เช่น Microsoft Office, Gmail หรือระบบ ERP ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบใหม่ เพื่อให้ AI ช่วยจัดการงานแบบอัตโนมัติ คล้าย USB Hub ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้เครื่องมือเดิม

12. จัดการเอกสารไม่เป็นระเบียบ? AI ช่วยได้
งานเอกสารหรือข้อมูลที่ไม่มีรูปแบบตายตัว (Unstructured Data) เช่น ใบสั่งซื้อ หรือเอกสารกระดาษจำนวนมาก AI สามารถช่วยแปลงให้เป็นข้อมูลดิจิทัล พร้อมนำไปใช้งานต่อ

13. Typhoon OCR: AI ไทยที่อ่านเอกสารราชการได้แม่นยำ
SCB 10X ได้พัฒนา AI ชื่อว่า Typhoon OCR ให้สามารถอ่านและดึงข้อมูลจากเอกสารราชการภาษาไทยได้แม่นยำสูง ตรวจสอบความถูกต้อง และเปรียบเทียบข้อมูลได้

14. AI Data Cleaning: เคลียร์ข้อมูลให้พร้อมใช้งาน
AI สามารถช่วยตรวจสอบ แก้ไขข้อมูลซ้ำหรือล้าสมัยให้สะอาด พร้อมนำไปใช้วิเคราะห์ หรือต่อยอดการตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น

15. สร้าง Insight ให้ผู้บริหารตัดสินใจไวขึ้น
AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากและสรุปเป็น Insight เพื่อให้ผู้บริหารเห็นภาพรวม เข้าใจประเด็นสำคัญ และตัดสินใจได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

16. สรุปประโยชน์ของ AI ต่อองค์กร
✅ Customer Support: ช่วยให้ทีมทำงานไวขึ้น ลูกค้าได้รับบริการดีขึ้น
✅ Operations Autonomous: ทำงานแบบอัตโนมัติได้มากขึ้น
✅ Extracting Unstructured Data: แปลงเอกสาร เปลี่ยนข้อมูลกระดาษเป็นดิจิทัล
✅ Data Quality: ปรับปรุงคุณภาพข้อมูลให้ใช้ได้จริง
✅ Direct insight: สนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร

17. AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่คน แต่ช่วยให้ “คน” เก่งขึ้น
AI คือเครื่องมือเสริมศักยภาพ ไม่ใช่ตัวแทนมนุษย์ เราจึงควรเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับมัน ใช้ AI เป็นตัวช่วยในการคิด วิเคราะห์ และลงมือทำ เพื่อให้เราทำงานได้เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และสร้างมูลค่าได้มากขึ้นในบทบาทเดิม

18. คุณจะไม่โดนไล่ออกเพราะ AI แต่จะถูกแทนที่ด้วย “คนที่ใช้ AI ได้เก่งกว่า”
ประโยคนี้คือคำเตือนและโอกาสในเวลาเดียวกัน เพราะในยุคที่ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีกำหนดความได้เปรียบในการแข่งขัน คนที่เรียนรู้ไว ปรับตัวได้ดี และใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือคนที่จะ “แทนที่” คนที่หยุดนิ่ง

——
📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions 
ติดต่อ [email protected]
หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)
——