19 บทเรียนจากผู้นำ HR – องค์กรแบบไหนที่ AI อยู่แล้วรุ่ง?
19 บทเรียนจากผู้นำ HR – องค์กรแบบไหนที่ AI อยู่แล้วรุ่ง?
Business
4 นาที
30 มิ.ย. 2025
แชร์
Table of contents
📌สรุป 19 สาระสำคัญจาก Panel Discussion ในหัวข้อ “Experience Design & The Culture Roadmap: Tech, Engagement and Productivity Challenge
โดย คุณศรินทร์รา วงศ์ศุภลักษณ์ Group Chief Human Resources Officer, True Corporation, คุณจิตติยา ธรรมสรณ์ Executive Vice President, Division Head Human Resources and Corporate Development, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ดร.สุรพิชย์ พรหมสิทธิ์ Institute Director, Continuing Education & Human Resources, Thammasat University จากงาน THAILAND HR TECH Conference & Exposition 2025
เพราะ “ปัญญา” กับ “ปัญญาประดิษฐ์” ไม่เหมือนกัน
1. คุณศรินทร์รา กล่าวถึงประเด็นที่ว่า “ปัญญา” กับ “ปัญญาประดิษฐ์” ไม่เหมือนกันไว้ว่า
AI สำคัญ แต่ “Human Wisdom” ก็ขาดไม่ได้ – แม้ AI จะช่วยให้การทำงานง่ายและเร็วขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถแทนที่ “ปัญญา” ของมนุษย์ ที่สามารถตัดสินใจในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อนได้ ฉะนั้น การนำ AI มาใช้ในองค์กรจึงต้องไม่มองข้ามคุณค่าของ Human Wisdom
2. ซึ่ง “วัฒนธรรมองค์กร” คือหัวใจของการอยู่ร่วมกับ AI สิ่งที่จะทำให้องค์กรเปลี่ยนแปลงและอยู่ร่วมกับ AI ได้คือ “Culture” หรือวัฒนธรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “Mindset” โดยเฉพาะ Growth Mindset ซึ่ง HR ต้องเป็นผู้ผลักดันให้เกิดขึ้นจริง
3. และ HR คือจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ที่มีความหมาย การนำ AI เข้าไปประยุกต์ใช้ในองค์กรต้องคำนึงถึง Culture หรือวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน การออกแบบ Employee Experience ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมนั้น ๆ ต้องเริ่มจาก HR และต้องทำให้เข้าไปซึมซับอยู่ในทุกระดับ ทุก Generation ของคนในองค์กรให้ได้
4. คุณศรินทร์รา เน้นว่า Culture ที่ดี ต้องออกแบบให้สามารถปรับตัวได้ตลอดเวลา ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ต้องขับเคลื่อนจากบนลงล่าง (Tone from the Top) และสะท้อนจากล่างขึ้นบน (Reflection from bottom up) อย่างจริงจัง และไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต
5. โดยวิธีคิดในการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้ง ควรมองจากเป้าหมายขององค์กรในอีก 3 ปีข้างหน้าและเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก แล้วนำมาออกแบบทั้ง Customer Journey และ Employee Journey ให้ตอบโจทย์ เพราะนอกจากลูกค้าแล้ว พนักงานในองค์กรก็สามารถเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่มองหา “ความรู้” และ “ความเคารพ” มากกว่าแค่เงินเดือน
6. คุณจิตติยาได้เสริมอีกว่า ลองสำรวจเพิ่มว่าองค์กรมี Pain Point อะไรบ้าง? สิ่งไหนสำคัญในอนาคต แล้วนำข้อมูลมาออกแบบให้พนักงานสามารถนำไปใช้ได้จริง
HR ต้อง “Reinvent” งานใหม่
7. นำมาสู่การ “Reinvent” งานใหม่ เมื่ออาชีพบางอย่างกำลังหายไปและบางอย่างกลับมา HR ต้องสร้างงานใหม่ (Build) เพื่อพัฒนาคน (Boost) ให้พร้อมเดินไปกับองค์กร โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
8. ดร.สุรพิชย์ ได้ถามถึงแนวคิดว่า “แล้วเราจะออกแบบ Employee Experience ให้เหมาะกับองค์กรของเราได้อย่างไร?” คุณศรินทร์รา จึงได้ยกตัวอย่างของ ทรูคอร์ปอเรชั่น ที่ใช้วิธีแบ่งกลุ่มพนักงานตามเป้าหมายและความต้องการ (Employee Segmentation) เพื่อให้เห็นว่า Employee Journey ของแต่ละช่วงวัยแตกต่างกัน และต้องออกแบบให้เหมาะสม
9. และคุณจิตติยา เสริมว่า ให้ใช้ใจสัมผัส แล้วเสริมด้วยเทคโนโลยี การออกแบบ Employee Expereince ไม่ต้องซับซ้อนมาก แค่ใช้ใจสัมผัสแล้วใช้เทคโนโลยีเสริมให้พวกเขาเห็นว่าองค์กรนี้มีเส้นทางให้เติบโตอย่างชัดเจน แล้วเขาจะซึมซับได้เอง
10. “แต่ก่อนที่จะให้คนในองค์กรใช้ AI เป็น HR ต้องเข้าใจให้ลึกก่อน” คุณศรินทร์ราได้เล่าให้ฟังว่า ทรูคอร์ปอเรชั่น ได้พัฒนา HR ให้เป็น Digital Talent ได้ถึง 70% ผ่านการเรียนทั้ง Hard Skills (AI Awareness, Foundation, Hands-on) และ Soft Skills จนเข้าใจการใช้ AI อย่างรอบด้าน
ผ่านกระบวนการ “Learnathon” ชวนพนักงานแข่งกันเรียนรู้ AI รวม 45 ชั่วโมงเพื่อทำให้กลายเป็น Developer
พร้อม “Hackathon” เพื่อจุดไอเดียนวัตกรรมใหม่ ๆ ในองค์กร
และจบด้วย “AI Discovery” กรณีศึกษาที่นำมาจากการเรียนรู้จริง
11. ซึ่งจะช่วยสร้าง Critical Thinking ทักษะคิดวิเคราะห์ ตั้งคำถามกับข้อมูลที่ AI สร้างขึ้น และพิจารณาอย่างรอบด้านก่อนนำไปใช้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจ
12. คุณศรินทร์รา ได้ลองยกตัวอย่างการสร้างมูลค่าจากข้อมูล Insight สู่การประหยัดงบ 50 ล้าน โดยเป็นการใช้ Analyze ข้อมูลด้านสุขภาพของพนักงาน ทำให้ทรูฯ สามารถสร้าง Cost Saving Center ประหยัดงบประมาณไปได้ 50 ล้าน และนำไปลงทุนด้าน Health & Wellbeing กลายเป็น HR ที่ไม่ได้แค่ “บริหารต้นทุน” แต่ “สร้างมูลค่าใหม่”
ความท้าทายของ HR กับการนำ Solution ใหม่ ๆ มาใช้
13. ด้าน ดร.สุรพิชย์ พรหมสิทธิ์ ตั้งข้อสงสัยว่า แม้ในโลกปัจจุบันมี Solution มากมายให้เลือกใช้ แต่การที่จะซื้อระบบเข้ามาแล้วหวังให้องค์กรเปลี่ยนผ่านสู่ Digital ในทันทีคงเป็นไปไม่ได้ จริงหรือ?
14. คุณจิตติยาได้อธิบายไว้ว่า ก่อนใช้ระบบใด ๆ ต้องทำให้กระบวนการภายในเรียบง่าย เข้าใจง่าย และทันสมัยก่อนเสมอ แล้วจึงค่อยเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับองค์กรเข้ามาใช้ได้
15. และเหนือสิ่งอื่นใด ต้องลองก่อน ปรับได้ อย่าหยุดเดิน อะไรที่ไม่เวิร์กก็เปลี่ยนได้ ขอแค่ลงมือทำและทำต่อเนื่อง เพราะต่อให้ซื้อระบบแพงแค่ไหน ถ้าคนไม่ใช้ มันก็หยุดอยู่แค่นั้น
16. “ถ้าเราไม่ disrupt ตัวเอง ก็จะมีคนมา disrupt เรา” – คุณศรินทร์ราได้พูดไว้ได้อย่างน่าสนใจ ถึงการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่ความท้าทาย แต่คือโอกาส องค์กรต้องกล้าทำสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิด Innovation ถ้าไม่ปรับ จะถูกคนอื่นแซงในที่สุด และไม่สามารถ Fast Forward ไปสู่อนาคตได้ทัน
17. และ Culture และ Tech ต้องเดินคู่กันเสมอ – Culture ที่โปร่งใส ทำให้คนเข้าใจเทคโนโลยีและพร้อมใช้มัน ควรมีการทำ Engagement Survey เป็นประจำ รับฟังเสียงพนักงานจริงจัง จะทำให้เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา ทำให้คนไปกับองค์กรพร้อม ๆ กัน
18. คุณจิตติยาเน้นย้ำว่า เทคโนโลยีอาจเปลี่ยนเร็ว แต่ถ้าองค์กรไม่มี Culture ที่ชัดเจน จะไปต่อไม่ได้ HR จึงต้องช่วยให้คนในองค์กรเข้าใจว่า Culture มีผลต่อชีวิตและงานอย่างไร แล้วเชื่อมกับเป้าหมายขององค์กร และนำ Technology มาเสริม จะทำให้ไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
19. สรุป : Culture ที่พร้อมรับ AI ต้องมาจาก “ทั้งองค์กร” – การสร้างวัฒนธรรมที่เปิดรับ AI ไม่ใช่เรื่องของ HR ฝ่ายเดียว แต่ต้องขับเคลื่อนทั้งองค์กร โดยมี HR เป็นผู้นำร่วมด้วย “Human Wisdom + AI” อย่างแท้จริง
——
📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions
ติดต่อ [email protected]
หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)
——