ปี 2025 ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เรามองเห็นความเปลี่ยนแปลงของ “ตลาดแรงงาน” อย่างชัดเจน หลายอาชีพเริ่มค่อย ๆ หายไป ขณะที่บางอาชีพกลับเติบโตอย่างรวดเร็ว และยังมีอาชีพใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเกิดขึ้นมากมาย

คำถามคือ ตอนนี้เราอยู่ในกลุ่มไหน? และในอนาคตเราจะอยู่ตรงจุดใดของตลาดงานยุคใหม่?

รายงาน Future of Jobs Report 2025 จาก World Economic Forum (WEF) ชี้ให้เห็นว่า โลกของการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่เคย ทั้งจากเทคโนโลยี AI, ระบบอัตโนมัติ (Automation) และความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทั้งหมดนี้กำลัง “เขย่า” ตลาดแรงงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ

ภาพรวมตลาดแรงงานโลกภายในปี 2030

✅ จะมี “งานใหม่” เกิดขึ้นกว่า 170 ล้านตำแหน่ง
🔁 “งานที่ยังคงอยู่” แต่ต้อง “ปรับตัว” มากกว่า 1,090 ล้านตำแหน่ง
❌ และงานที่อาจ “หายไป” กว่า 92 ล้านตำแหน่ง

สรุปคืองานไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่ “รูปแบบของงาน” จะเปลี่ยนไปอย่างมากในอีก 5-10 ปีข้างหน้า และคนที่ปรับตัวได้เร็วที่สุดจะเป็นผู้ที่อยู่รอดในยุค AI

แต่อย่าตื่นตระหนกกลัวว่าจะตกงาน เพราะนี่อาจเป็น“สัญญาณเตือน” ที่ทำให้เราลุกขึ้นมา Upskill และ Reskill อะไรบางอย่าง เพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ในอนาคต โดยไม่ให้ “เไ” มาแทนที่ได้ง่าย ๆ

อาชีพที่เติบโตมากที่สุด (Top Largest Growing Jobs)

อาชีพที่มีแนวโน้ม “รุ่ง” ขึ้นเรื่อย ๆ มักเกี่ยวข้องกับงานที่ผสานทักษะด้านเทคโนโลยี มนุษย์ และบริการเข้าด้วยกัน เช่น

1. แรงงานในภาคเกษตร (Farmworkers, labourers and other agricultural workers)
2. คนขับรถบรรทุกขนาดเล็กหรือบริการส่งของ (Light truck or delivery services drivers)
3. นักพัฒนาโปรแกรมและแอปพลิเคชัน (Software and applications developers)
4. ช่างก่อสร้างและงานช่าง (Building framers, finishers and related trades workers)
5. พนักงานขายหน้าร้าน (Shop salespersons)
6. พนักงานแปรรูปอาหารและงานผลิตอาหาร (Food processing and related trades workers)
7. คนขับรถยนต์ รถตู้ และมอเตอร์ไซค์ (Car, van and motorcycle drivers)
8. พยาบาลวิชาชีพ (Nursing professionals)
9. พนักงานเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม (Food and beverage serving workers)
10. ผู้จัดการทั่วไปและฝ่ายปฏิบัติการ (General and operations managers)
11. นักสังคมสงเคราะห์และที่ปรึกษา (Social work and counselling professionals)
12. ผู้จัดการโครงการ (Project managers)
13. อาจารย์มหาวิทยาลัยและอุดมศึกษา (University and higher education teachers)
14. ครูระดับมัธยมศึกษา (Secondary education teachers)
15. ผู้ช่วยดูแลส่วนบุคคล (Personal care aides)

อาชีพที่มีแนวโน้มลดลงมากที่สุด (Top Largest Declining Jobs)

ในทางกลับกัน “อาชีพที่ร่วง” หรือมีแนวโน้มถูกแทนที่ มักเป็นงานที่ทำซ้ำ ๆ พึ่งพาเอกสาร หรือสามารถใช้ระบบอัตโนมัติแทนได้ เช่น

1. แคชเชียร์และพนักงานขายตั๋ว (Cashiers and ticket clerks)
2. ผู้ช่วยฝ่ายบริหารและเลขานุการผู้บริหาร (Administrative assistants and executive secretaries)
3. แม่บ้าน ภารโรง และเจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร (Building caretakers, cleaners and housekeepers)
4. เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลวัสดุและคลังสินค้า (Material-recording and stock-keeping clerks)
5. พนักงานงานพิมพ์และอาชีพที่เกี่ยวข้อง (Printing and related trades workers)
6. เจ้าหน้าที่บัญชี บันทึกเงินเดือน และการเงินทั่วไป (Accounting, bookkeeping and payroll clerks)
7. นักบัญชีและผู้สอบบัญชี (Accountants and auditors)
8. พนักงานขนส่งและเจ้าหน้าที่รถไฟ (Transportation attendants and conductors)
9. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (Security guards)
10. พนักงานธนาคารและเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ (Bank tellers and related clerks)
11. เจ้าหน้าที่ป้อนข้อมูล (Data entry clerks)
12. พนักงานบริการลูกค้า (Client information and customer service workers)
13. นักออกแบบกราฟิก (Graphic designers)
14. ผู้จัดการฝ่ายบริการธุรกิจและบริหารงานทั่วไป (Business services and administration managers)
15. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาค่าสินไหม (Claims adjusters, examiners, and investigators)

แม้หลายอาชีพจะได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีและ AI แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะถูกแทนที่ทั้งหมด เพราะ “AI ยังไม่สามารถทดแทนทักษะความเป็นมนุษย์” หรือ Human Skill ได้อย่างสมบูรณ์

ทักษะสำคัญที่ตลาดแรงงานต้องการในอนาคต

หากอยากอยู่รอดในโลกการทำงานยุคใหม่ เราจำเป็นต้องผสมผสาน “ทักษะทางเทคนิค” (Technical Skills) เข้ากับ “ทักษะความเป็นมนุษย์” (People Skills) โดยเฉพาะทักษะต่อไปนี้ที่ตลาดแรงงานให้ความสำคัญมากที่สุด

▪️ การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking)
▪️ ความยืดหยุ่น ความอดทน และความเร็วในการปรับตัว (Resilience, Flexibility and Agility)
▪️ ภาวะผู้นำและอิทธิพลทางสังคม (Leadership and Social Influence)
▪️ การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking)
▪️ ความอยากรู้อยากเห็นและการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Curiosity and Lifelong Learning)
▪️ การคิดเชิงวิพากษ์และวิเคราะห์ (Critical Thinking and Analysis)
▪️ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving)
▪️ การใช้เหตุผลและการระดมความคิด (Reasoning, Problem Solving and Ideation)

สรุป

หากจะอยู่ให้ได้ ไปให้ไกลในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เราไม่ต้องพยายามเป็นคนที่เก่งที่สุด แต่ควรเป็นคนที่เรียนรู้และปรับตัวได้เร็วที่สุด เก่งเทคนิคให้มาก และต้องไม่ลืมเสริม “ทักษะความเป็นมนุษย์” เข้าไปด้วย

เพราะฉะนั้น วันนี้อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้น Upskill/Reskill เพื่อให้คุณอยู่เหนือ AI และพร้อมก้าวไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลกงานยุคใหม่ และเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ AI มาแทนที่เราได้ง่าย ๆ

เพิ่มศักยภาพทีมของคุณด้วย Enabler-Skills House จาก True Digital Academy
หลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อเสริม Human-Centric Skills ทักษะแห่งอนาคตที่เน้น “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” เพราะ “อนาคตขององค์กรไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เทคโนโลยี แต่ขึ้นอยู่กับคนที่พร้อมปรับตัวด้วยทักษะแห่งอนาคต”

📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะคนในองค์กรด้วย AI–People Enablement Solutions
📩 ติดต่อ: [email protected]
📞 โทร. 082-297-9915 (คุณโรส)

Source: weforum.org (1), weforum.org (2)