“ยอมโง่เพื่อฉลาด” คือกุญแจสู่การอยู่รอดในโลก AI ปล่อยให้ AI ทำงานที่แทนเราได้ แล้วใช้เวลากับสิ่งที่ AI ไม่มีวันทำได้

ในยุคที่ AI ก้าวเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญในการทำงาน หลายคนกังวลว่า AI จะมาแย่งงานหรือแทนที่คนหรือเปล่า?

คุณอาร์ท อภิรัตน์ หวานชะเอม, Head of True X, True Digital Group ชี้ให้เห็นว่า AI ไม่ได้มาแทนคน แต่จะเป็นเครื่องมือที่ช่วย “เสริมพลัง” (Empower) ให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์มากขึ้น

AI จึงไม่ใช่แค่ “เทคโนโลยี” แต่คือ โอกาสใหม่ของการทำงานและการอยู่รอดในโลกดิจิทัล

HUMAN.AI = คนที่ติดปีกด้วย AI

คุณอาร์ทย้ำว่า ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่ AI จะมาแย่งงาน แต่คือ เราจะเข้าใจศักยภาพแล้วใช้ AI เป็น “สมองเสริม” ได้หรือไม่ โดยที่มนุษย์ยังคงเป็นศูนย์กลางของ การคิด วิเคราะห์ และสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ตาม Passion ของตัวเอง

“เราอาจไม่ตกงานเพราะ AI แต่เราจะถูกแทนที่ด้วย คนที่ใช้ AI ได้ดีกว่า”

✅ สิ่งสำคัญคือ AI ต้อง “เข้าถึงได้ทุกคน” เพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างสังคมที่แข่งขันกันได้อย่างเท่าเทียม

3 หลักคิดสำคัญในการทำให้ AI เสริมพลังคน

▪️ Inclusive (ครอบคลุม) – ต้องเปิดโอกาสให้เข้าถึงได้ทั้งองค์กรใหญ่, SME และบุคคลทั่วไป
▪️ Purposeful (มีเป้าหมาย) – ใช้ AI ด้วยวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ไม่ใช่เพราะกระแส
▪️ Empowering (เสริมศักยภาพมนุษย์) – AI ควรเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่แทนที่

HUMAN.AI Superpower = จุดแข็งมนุษย์ + พลังของ AI

“AI” เก่งเรื่อง: ข้อมูล ความเร็ว ความแม่นยำ และทำงานได้ไม่หยุดพัก

“มนุษย์” เก่งเรื่อง: ความคิดสร้างสรรค์ คุณค่า จริยธรรม และการเข้าใจผู้คน

เมื่อผสานจุดแข็งเข้าด้วยกัน เกิดเป็น “Superpower” ที่สร้างโอกาสใหม่ทั้งด้านการทำงานและนวัตกรรม

สิ่งที่มนุษย์ควรโฟกัส:
▪️ Passion & Purpose Driven – ทำงานด้วยแรงบันดาลใจและความหมาย
▪️ Vision & Creativity – สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ AI ยังจินตนาการไม่ได้
▪️ Inclusivity & Empathy – เข้าใจผู้คนและบริบทอย่างลึกซึ้ง
▪️ Judgment & Wisdom – ใช้ประสบการณ์และจริยธรรมในการตัดสินใจ

มนุษย์ไม่จำเป็นต้องแข่งกับ AI แต่ให้ AI โฟกัส How & What ส่วนมนุษย์โฟกัส Why & When

เคล็ดลับการใช้ AI ให้ชนะ: เลือกถูก = Win

AI มีหลายประเภท และมีจุดแข็งต่างกัน

▪️ Predictive AI → วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก คาดการณ์ได้แม่นยำ แต่ยังขาดการอธิบายที่เข้าใจง่าย
▪️ Generative AI → สื่อสารภาษามนุษย์ได้ดี แต่ยังไม่เชี่ยวชาญข้อมูลเชิงลึก
▪️ Agentic AI → ผสาน Predictive + Generative ช่วยแปลข้อมูลซับซ้อนให้เข้าใจง่าย โดยไม่ต้องเป็น Data Scientist

องค์กรที่รู้ว่า ควรใช้ AI แบบไหน ในเวลาไหน จะได้เปรียบทั้งการบริหารทีมและพัฒนาบริการใหม่ ๆ

Human.AI Framework: 3 ขั้นตอนสู่การทำงานร่วมกับ AI

หากองค์กรหรือทีมอยากใช้ AI เป็น “พลังเสริม” คุณอาร์ท ได้เสนอ 3 ขั้นตอน
▪️ Reflect – วิเคราะห์ลักษณะงาน และหาจุดที่ AI ช่วยได้จริง
▪️ Reframe – ออกแบบบทบาทใหม่ให้มนุษย์และ AI ทำงานสมดุล
▪️ Reinvent – สร้างองค์กรแบบ Hybrid ที่มนุษย์และ AI ทำงานด้วยกัน

การประยุกต์ใช้กับ AI Agent 3 กลุ่ม

▪️ Augment – มอบงานซ้ำ ๆ ให้ AI / มนุษย์ตรวจสอบความถูกต้อง
▪️ Collaborate – ร่วมมือในงานซับซ้อน / มนุษย์เป็นผู้นำและกำกับ
▪️ Assist – ใช้ AI เป็นผู้ช่วยส่วนตัว เพิ่มความเร็วและศักยภาพ

✨ สรุป: อยู่รอดในยุค AI อาจต้อง “ยอมโง่เพื่อฉลาด”

คุณอาร์ทสรุปว่า AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่กำลังท้าทายให้เรานิยามคำว่า “งาน” ใหม่ และจะมีงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ ถ้าเราเข้าใจและใช้ AI อย่างถูกวิธี

“ยอมโง่เพื่อฉลาด” = ยอมปล่อยทักษะที่ AI ทำแทนได้ แล้วโฟกัสในสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า เช่น ประสบการณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และ Passion ที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจาก AI

แล้วคุณล่ะ พร้อมใช้ AI เป็น สมองเสริม เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ และกล้าที่จะเดินหน้าสร้างโอกาสใหม่ ๆ ที่ AI ยังทำแทนไม่ได้ แล้วหรือยัง? 🚀

—–

📌  สนใจยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจในยุคที่ AI Disruption ให้ TDA เป็นที่ปรึกษาด้าน Corporate In-House Training 
👉 ติดต่อ [email protected] หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)