McKinsey Global Institute สถาบันวิจัยชั้นนำทางธุรกิจและการจัดการของโลก ได้ทำการสำรวจจาก 15 ประเทศทั่วโลก เกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นสำหรับในงานอนาคต จนสามารถจำแนกหมวดหมู่ของทักษะสำคัญ และแบ่งออกมาเป็นทักษะพื้นฐานย่อยได้ ซึ่งหากมีทักษะเหล่านี้แล้วจะทำให้ ได้รับโอกาสจ้างงานมากกว่า เงินเดือนสูงกว่า และมีความพึงพอใจในงานตนเองสูงกว่า!

ในบทความกล่าวว่า ในอนาคตลักษะงานในโลกนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยงานที่ต้องใช้มือ ใช้ความคิดไม่ซับซ้อน จะถูกทดแทนด้วย AI และระบบ Automate ต่างๆ โดยในตลาดแรงงานทั่วไปที่หน้าที่ต่างๆ ถูกแทนที่ด้วย AI และระบบ Automate คนทำงานแบบเราจะอยู่รอดได้ หากมีทักษะที่ตอบโจทย์ 3 เงื่อนไขดังต่อไปนี้ คือ
1. สามารถสร้างคุณค่าเพิ่มได้เหนือกว่าระบบ Automate หรือ AI
2. เอื้อต่อการปฏิบัติงานใน digital environment
3. ยืดหยุ่น สามารถนำมาปรับให้เข้ากับลักษณะการทำงานใหม่ๆ หรืออาชีพใหม่ๆ ได้

ซึ่งทักษะที่ตอบโจทย์ 3 เงื่อนไขข้างต้น ถูกเรียกว่า “Distinct Elements of Talent” (DELTA) หรือ “องค์ประกอบที่โดดเด่นของคนทำงานยุคใหม่” แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่ โดยในแต่ละหมวดหมู่จะถูกแบ่งเป็นหมวดหมู่ย่อย

1. Cognitive หรือ กระบวนการความคิด ได้แก่ กลุ่มทักษะคิดวิเคราะห์ กลุ่มทักษะการสื่อสาร กลุ่มทักษะการวางแผนและดำเนินงาน และความยืดหยุ่นทางความคิด
2. Interpersonal หรือ ทักษะด้านระหว่างบุคคล ได้แก่ กลุ่มทักษะการขับเคลื่อนผู้อื่น กลุ่มทักษะพัฒนาความสัมพันธ์ กลุ่มทักษะการทำงานเป็นทีม
3. Self Leadership หรือ ความเป็นผู้นำ ได้แก่ กลุ่มทักษะการเข้าใจและจัดการตนเอง กลุ่มทักษะการเป็นเจ้าของกิจการ กลุ่มทักษะทำให้ตนเองบรรลุเป้าหมาย
4. Digital หรือ ทักษะด้านดิจิทัล ได้แก่ ความคล่องแคล่วและพื้นฐานความคิดด้านดิจิทัล กลุ่มทักษะการใช้และพัฒนาซอฟต์แวร์ ความเข้าใจเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล

ทั้งนี้แม้ค่า DELTA หลายๆ ตัว จะเป็นผลสะท้อนมาจากระดับการศึกษา โดยเฉพาะทักษะด้านดิจิทัล และความคิด แต่ทว่าทักษะบางตัว เรื่องของการศึกษากลับไม่มีผล อาทิ ความมั่นใจในตนเอง การโค้ชชิ่ง แก้ปัญหาความขัดแย้ง เป็นต้น อีกทั้งบางครั้งกลับพบว่ายิ่งมีการศึกษาสูง DELTA ค่าบางตัวกลับต่ำลง เช่น ความอ่อนน้อมถ่อมตน

นอกจากนี้ผลของการสำรวจบอกว่าองค์ประกอบใน DELTA บางตัว มีผลต่อโอกาสในการจ้างงาน รายได้ และความพอใจในงานด้วย

• ทักษะที่สัมพันธ์กับโอกาสในการจ้างงาน ได้แก่ Adaptability, Coping with uncertainty, Synthesizing messages, Achievement orientation, Fostering Inclusiveness
• ทักษะที่สัมพันธ์กับรายได้ที่สูง ได้แก่ Work-plan developments, Organizational awareness, Self-confidence, Asking the right questions, Tech translation and enablement
• ทักษะที่สัมพันธ์กับความพอใจในงาน ได้แก่ Self-motivation and wellness, Coping with uncertainty, Self-confidence, Sociability, Programming literacy

ซึ่งจากผลสำรวจก็พบอีกว่า ทักษะที่ปัจจุบันคนยังมีกันน้อยมากที่สุด ได้แก่ Software Use and Development และ Understanding of Digital Systems

โชคดีมากที่พวกเราได้มีโอกาสรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนที่เวลาจะมาถึง หากยังขาดทักษะด้านใด หรืออยากเสริมส่วนไหนเป็นพิเศษ ก็ยังสามารถเรียนรู้เริ่มเติม ค่อยๆ พัฒนากันไปได้ หวังว่าบทความนี้จะสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นประโยชน์ต่อคนในวัยเรียน-วัยทำงานที่ต้องการเตรียมพร้อมปรับตัวสู่การทำงานในในอนาคตทุกท่าน

Source : McKinsey
————————————————-
สามารถติดตามความรู้และคอร์สเรียนที่น่าสนใจจาก True Digital Academy ได้ทุกช่องทาง
Website – https://bit.ly/3e9QZPw 
Facebook – https://bit.ly/391XSkF
LinkedIn – https://bit.ly/3p7x08V 
Instagram – https://bit.ly/2LwX5Ra
TiKTok – https://bit.ly/3v8e0wV