ยุคที่คนไว้ใจใครยาก…จะทำยังไงให้แบรนด์ ‘ถูกรัก’ ได้จริง?

ยุคที่คนไว้ใจใครยาก…จะทำยังไงให้แบรนด์ ‘ถูกรัก’ ได้จริง?

Business

3 นาที

11 ก.ค. 2025

แชร์

📌 สรุปสาระสำคัญจาก Session “Building Brand Love in Distrustful Era” โดย คุณบี สโรจ เลาหศิริ เจ้าของเพจสโรจขบคิดการตลาด ในงาน Creative Talk Conference 2025

มองทฤษฎีจิตวิทยาความรักสู่การปั้นแบรนด์

1. คุณบีชวนมองแบรนด์ผ่านทฤษฎีจิตวิทยา “ความรัก” ในการสร้างแบรนด์
เพราะทุกความสัมพันธ์เกิดจาก “ความเชื่อใจ” และ “ความผูกพัน” ที่ต้องสร้างขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นเอง และมองหาจุดร่วมใน “การสร้างแบรนด์” ยังไงให้ “ถูกเลิฟ” ในยุคที่ผู้บริโภคยากจะเชื่อใจกัน

2. ยุคที่ความรักและความเชื่อใจเปราะบางขึ้น คนจึงยึดโยงกับสิ่งต่าง ๆ น้อยลง เพราะ…
🔹 “Choices” เมื่อมีทางเลือกมากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องทนกับอะไรที่ไม่ดีพอ
🔹 “Self Love” คนเริ่มรักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้ว่าต้องการอะไร
🔹 “Trust” ความไว้ใจต้องพิสูจน์ทุกวัน ยิ่งเมื่อ AI ทำให้แยก “จริง” กับ “ปลอม” ยากขึ้น ความซื่อสัตย์ต้องได้รับการพิสูจน์ในทุกวัน

การทำ Brand Love ให้ประสบความสำเร็จจึงต้องเข้าใจพื้นฐาน “ความรัก” เหล่านี้ด้วยเช่นกัน

3. Brand Love ยังสำคัญ…แต่จะยากขึ้น
จะไม่ใช่แค่ชวนให้รักผ่านการ “โฆษณาให้ดูดี” แต่ต้องประพฤติตัวดี อย่างจริงใจและสม่ำเสมอ

แนวคิด “ความรัก 3 สี

4. แนวคิด “ความรัก 3 สี” ค้นหา “ความรักที่ใช่” ในการสร้าง Brand Love
เพราะความรักมีหลายมิติ… Brand Love ก็เช่นกัน คุณบีเสนอโมเดล “ความรัก 3 สี” เพื่อช่วยให้แบรนด์เข้าใจว่า ลูกค้ารักเราด้วยเหตุผลแบบไหน? และเราจะเติมเต็มให้ครบได้อย่างไร?

❤️ ความรักสีแดง – Psychological Love
ความรักที่ตื่นเต้น เร้าใจ และเต็มไปด้วยความรู้สึกหลงใหล โหยหา
ลูกค้ารู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น หรือรู้สึกมี Passion ทุกครั้งที่ใช้

💗 ความรักสีชมพู – Logical & Rational Love
ความรักที่มีเหตุมีผล ศีลเสมอกัน และเข้ากันได้ดี
ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์นี้ตอบโจทย์ชีวิต ใช้แล้วคุ้มค่า เข้ากับความต้องการ

🤍 ความรักสีขาว – Social & Contextual Love
ความรักที่ได้รับการยอมรับจากสังคม
แบรนด์นี้มีภาพลักษณ์ดี คนรอบตัวใช้ คนในสังคมยอมรับ ใช้แล้วดูดี

5. “ความรักแบบผสมสี” 🎨 เมื่อลูกค้าไม่ได้รักเพราะเหตุผลเดียว
ความรักที่ยั่งยืน มักไม่ได้มีแค่สีเดียว แต่มาจากการผสมผสานหลายมิติ เช่น

❤️ 💗 ความรักสีแดง+สีชมพู – Rational-Emotional Love
ความรักที่ทั้ง “อิน” และ “เมคเซนส์” ไม่ได้มีคนอื่นมาเกี่ยวข้อง
ลูกค้าชอบแบรนด์และรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่เลือก

❤️🤍 ความรักแดง+สีขาว – Socio-Emotional Love
ความรักที่ทั้ง “ดึงดูด” และ “ดูดีในสายตาคนอื่น”
ลูกค้าใช้แล้วภูมิใจ เพราะทั้งชอบเองและสังคมก็ยอมรับ

🤍 💗ชมพู + ขาว = Social-Proof Love
ความรักที่เหมือน “คลุมถุงชน”
ลูกค้าใช้เพราะเหมาะสม คนแนะนำ แต่ยังไม่มีความหลงใหลเท่าไร

6. Healthy Last-Long Love: รักแท้ที่ยั่งยืนของแบรนด์
“Brand Love ที่ยั่งยืนควรมีครบทั้ง 3 สี” ❤️💗🤍

เมื่อแบรนด์สามารถสร้าง แรงดึงดูด (แดง) มีความเหมาะสม (ชมพู) และ การยอมรับจากสังคม (ขาว) ลูกค้าจะไม่อยากเปลี่ยนใจ และกลายเป็นรักที่ผูกพันในระยะยาว

7. คุณบี ฝากให้แบรนด์ลองย้อนถามตัวเองดูว่า… ลูกค้ารักเราเพราะอะไร?
หากอยากพัฒนา Brand Love ให้ไปสู่ “การแต่งงาน” กับลูกค้า (ความสัมพันธ์ระยะยาว) ลองพิจารณาดูว่า วันนี้แบรนด์ของคุณมี “ความรักสีไหน” แล้วบ้าง? ยังขาดสีไหนที่ควรเติมให้ครบ? และจะเติม “ความรู้สึก” และ “คุณค่า” แบบที่ลูกค้าต้องการลงไปอย่างไร?

3 หลักการสร้าง Brand Love

8. 3 หลักการสร้าง Brand Love ในโลกที่เปราะบาง ได้แก่

🔹 Consistency ความสม่ำเสมอ
สร้าง “วินัย” ในการส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่คงเส้นคงวา ในทุกช่วงเวลา ทุกช่องทาง ไม่ทรยศต่อคำสัญญา และไม่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง จะนำมาสู่ความเชื่อใจ / ความสม่ำเสมอไม่ได้แปลว่าหยุดพัฒนา แต่หมายถึง “พัฒนาโดยไม่เสียแก่นของแบรนด์”

🔹 Transparency ความจริงใจ โปร่งใส
เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และสื่อสารตรงไปตรงมา กล้าเปิดเผยข้อเท็จจริง ยอมรับความผิดพลาด และพร้อมแก้ไข

🔹 Empathy ความเข้าอกเข้าใจ
โดยคนไม่ได้จำว่าแบรนด์พูดอะไร แต่จะจำว่าแบรนด์ทำให้เขา รู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน และ Empathy คือ “EQ ของแบรนด์” ที่ต้องฝึกให้ลึกซึ้ง

9. หมั่นสร้างประสบการณ์เชิงบวกที่ดีตลอดเวลา ไม่ใช่การสร้างภาพอย่างเดียว
และยอมรับความผิดพลาด และจริงใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ทิ้งปัญหา

10. เพราะฉะนั้น Brand Love ไม่ได้ถูกสร้างเพราะคุณต้องการ “ได้รับความรัก”
แต่เราต้อง “ให้” ลูกค้าด้วยความจริงใจก่อน

11. อย่าเรียกร้องหาความรัก หากคุณไม่ทำตัวให้ควรค่าแก่การถูกรัก
Brand Love เริ่มจาก “การให้” ไม่ใช่แค่ “ความอยากได้”

12. เราไม่ได้รักคนที่สมบูรณ์ที่สุด แต่รักคนที่ “ดีพอ” จนเราไม่อยากมองหาใครอีก…แบรนด์เองก็เช่นกัน

แล้วคุณเคยมีแบรนด์ไหนที่ทำให้รู้สึก “ไม่ต้องมองหาใครอีก” ไหม? 

——
📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions 
ติดต่อ [email protected]
หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)
——