โดนโจมตีครั้งเดียวอาจพังทั้งระบบ! 10 ความเสี่ยงที่องค์กรต้องเจอ หากไม่ทำ Cybersecurity ตอนนี้

โดนโจมตีครั้งเดียวอาจพังทั้งระบบ! 10 ความเสี่ยงที่องค์กรต้องเจอ หากไม่ทำ Cybersecurity ตอนนี้

AI

3 นาที

18 ธ.ค. 2025

แชร์

ภัยไซเบอร์รุนแรงขึ้นทุกปี และเกิดขึ้นเร็วเกินกว่าที่ธุรกิจส่วนใหญ่คาดคิด

ทั่วโลกมีการโจมตีเกิดขึ้นทุก 39 วินาที และใช้เวลาเพียง 62 นาที จากเริ่มต้นจนเจาะระบบสำเร็จ

การป้องกันแบบ “รอให้เกิดเหตุแล้วค่อยแก้” ถือว่าเสี่ยงเกินไป เพราะรูปแบบการโจมตีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่องโหว่ซอฟต์แวร์ทั่วไป, Social Engineering, Deepfake, Supply Chain Attack และการใช้ Ransomware รูปแบบใหม่ ที่ตรวจจับยากกว่าเดิมหลายเท่า

องค์กรจำนวนมากยัง “มองข้ามสัญญาณเตือน” และไม่มีการสื่อสารที่ดีระหว่างทีม IT กับผู้บริหาร ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อ และต้องเผชิญความเสียหายที่ฟื้นตัวยาก ทั้งระบบล่ม ข้อมูลรั่ว และสูญเงินถึงระดับหลายสิบล้านบาท

10 ความเสี่ยงถ้าองค์กรไม่ทำ Cybersecurity ตั้งแต่วันนี้

1. ความเสียหายทางการเงินครั้งใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นค่ากู้คืนระบบ ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายด้าน Forensic รายได้ที่หายช่วงระบบหยุดชะงัก รวมถึงการฟื้นฟูระบบใหม่ทั้งหมด ล้วนทำให้ธุรกิจสูญเงินมากกว่าการลงทุนป้องกันหลายเท่า

2. Ransomware เรียกค่าไถ่หลักสิบถึงร้อยล้าน
ผู้โจมตีพัฒนาเทคนิคใหม่ตลอดเวลา ธุรกิจที่ตอบสนองช้าหรือไม่มีแผน Incident Response ชัดเจน มักถูกเข้ารหัสข้อมูลและถูกนำไปเรียกค่าไถ่จำนวนมหาศาล

3. ธุรกิจหยุดชะงักจนถึงขั้นปิดกิจการ
การถูกโจมตีหนึ่งครั้งอาจสร้างความเสียหายเฉลี่ยกว่า 10 ล้านบาท ระบบล่ม การส่งมอบล่าช้า และโอกาสทางธุรกิจที่หายไป โดยมีรายงานระบุว่า SME กว่า 66% ต้องปิดตัวภายใน 6 เดือน เพราะรับภาระความเสียหายไม่ไหว

4. ข้อมูลถูกขโมยและขายในตลาดมืด
ตลาดซื้อขายข้อมูลใน Dark Web เติบโตต่อเนื่อง ผู้ร้ายจึงมีแรงจูงใจขโมยข้อมูลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสูตรธุรกิจ กลยุทธ์ ข้อมูลการวิจัย หรือรายชื่อลูกค้า ซึ่งอาจถูกขายให้คู่แข่งทันที

5. ถูกโจมตีช่วงกลางคืนหรือวันหยุด
องค์กรที่ไม่มีทีม Monitoring 24/7 หรือระบบแจ้งเตือนแบบ Real-time มักรู้ตัวช้าเกินไป ทำให้ควบคุมเหตุการณ์ไม่ได้และความเสียหายเพิ่มขึ้นหลายเท่า

6. ถูกใช้เป็นประตูไปโจมตีคู่ค้ารายใหญ่
ผู้ไม่หวังดีอาจเจาะมาจาก Partner หรือ Third Party เพื่อใช้เป็นสะพานเข้าระบบบริษัทใหญ่ในซัพพลายเชน ทำให้ถูกฟ้องร้องหรือถูกยกเลิกสัญญาในทันที

7. ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือขององค์กรพังถาวร
เมื่อข้อมูลรั่วไหลหรือระบบล่ม ลูกค้าจะขาดความเชื่อมั่น คู่ค้าอาจเลิกทำธุรกิจด้วย และภาพลักษณ์ที่เสียหายอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการกู้คืน

8. เสี่ยงคดีความ ถูกฟ้องร้อง และค่าปรับทางกฎหมายมหาศาล
การละเมิด PDPA, GDPR หรือมาตรฐานในอุตสาหกรรม เช่น PCI DSS อาจนำไปสู่ค่าปรับสูงมาก รวมถึงคดีความจากลูกค้าหรือคู่ค้า

9. การถูกโจมตีผ่านพนักงาน (Insider Threat / Social Engineering)
พนักงานอาจตกเป็นเหยื่อ Phishing ใช้รหัสผ่านอ่อน, พนักงานเก่าที่เข้าถึงข้อมูลเดิมได้ หรือขาดการอบรมความตระหนักด้านความปลอดภัย ทำให้องค์กรเสี่ยงต่อการโจมตีแบบไม่รู้ตัว

10. ความเสี่ยงจาก Cloud และ BYOD
องค์กรที่ใช้ Cloud และปล่อยให้นำอุปกรณ์ส่วนตัวมาทำงาน แต่ไม่มี Access Control, Encryption หรือระบบจัดการอุปกรณ์ (MDM) มักเจอปัญหาข้อมูลรั่วเมื่ออุปกรณ์หายหรือถูกแฮ็กผ่าน Wi-Fi สาธารณะ

สิ่งที่องค์กรต้องทำถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อ

1. ภัยคุกคามไม่มีวันหยุด ต้องมีการเฝ้าระวังระบบ 24/7
การโจมตีเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแม้ในวันหยุดหรือตอนกลางคืน การมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องช่วยให้ตอบสนองทันทีที่มีเหตุผิดปกติ

2. ตั้งเป้าหยุดภัยภายใน 60 นาที
แนวทางมาตรฐานคือ ตรวจจับ 1 นาที → วิเคราะห์ 10 นาที → หยุดภัย ภายใน 60 นาที ป้องกันความเสียหายลุกลาม

3. รู้จักทรัพย์สินดิจิทัลขององค์กร
มี Asset Inventory และ Network Diagram ที่ชัดเจน ช่วยให้ตีวงเหตุการณ์ได้ไวขึ้นมาก

4. ปิดช่องว่างความประมาทของคน
ใช้ Password Policy ที่เข้มงวด, บังคับ MFA, และอบรมพนักงานสม่ำเสมอ รวมถึงเปิด 2FA (2-Factor Authenticatio) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าระบบเพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้สูงขึ้น

5. ผสาน People + Process + Technology
เพราะเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีทีมงานที่พร้อมทำงานจริง และกระบวนการที่ทดสอบแล้ว

6. ยกระดับการป้องกันด้วยเทคโนโลยี EDR
ใช้เทคโนโลยี EDR ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแบบ Real-time และลดโอกาสรั่วไหลตั้งแต่ต้นเหตุ

7. เปลี่ยน Mindset ให้ Cybersecurity เป็นหน้าที่ของทุกคน
สร้างความตระหนักรู้ว่าภัยไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายไอทีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งองค์กร สังเกตความผิดปกติ และรายงานทันที

8. สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
มี Backup พร้อมใช้งานคือวิธีรอดจากการถูกเข้ารหัสข้อมูล เพื่อช่วยให้ธุรกิจกลับเดินหน้าต่อได้แม้ถูกโจมตี

9. ปลูกฝังวัฒนธรรม “เอ๊ะ!”
สงสัยก่อน คลิกทีหลัง ไม่ปล่อยผ่านและรายงานทันทีที่เห็นสิ่งผิดปกติ

10. เรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ทำ Post-Incident Review ทุกครั้ง เพื่อให้ระบบแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ

สรุป

Cybersecurity ไม่ใช่รายจ่าย แต่คือการลงทุนเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ การ “รอ” ให้เกิดเหตุ คือการเพิ่มความเสี่ยงแบบไม่จำเป็น

ธุรกิจอาจหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีไม่ได้ แต่สามารถป้องกันความเสียหายได้ หากมีระบบ การเฝ้าระวัง และวัฒนธรรมความปลอดภัยที่แข็งแรง การทำวันนี้คือการซื้อความปลอดภัยในวันพรุ่งนี้

———-

📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะคนในองค์กรด้วย AI–People Enablement Solutions
📩 ติดต่อ: [email protected]
📞 โทร. 082-297-9915 (คุณโรส)

แชร์