เขาวงกตแห่งการเลือกเอออออไออออออออ เลือกเครื่องมือ AI อย่างไรไม่ให้เราเป็นคนที่ห่วยลง

เขาวงกตแห่งการเลือกเอออออไออออออออ เลือกเครื่องมือ AI อย่างไรไม่ให้เราเป็นคนที่ห่วยลง

AI

3 นาที

12 ก.ย. 2025

แชร์

ทุกวันนี้ AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีสำหรับนักพัฒนาเท่านั้น แต่กลายเป็นเครื่องมือที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตและการทำงานของเราทุกคน แต่ในขณะเดียวกัน

งานวิจัยจาก MIT ก็เตือนว่า การใช้ ChatGPT หรือ AI แบบผิดวิธี อาจทำให้สมองฝ่อ และลดทักษะการคิดสร้างสรรค์ของเรา ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่การพัฒนา แต่กลับกลายเป็นการทำให้ความสามารถของมนุษย์ถอยหลังลง

อย่างไรก็ตาม คุณต่อ พุทธิศักดิ์ ตันติสุทธิเวท Head of Innovation Advocacy, TISCO ชี้ให้เห็นใน Session AI Explorer: เลือกเครื่องมือ AI อย่างไรไม่ให้เราเป็นคนที่ห่วยลง ในงาน #TDANEXT2025 ไว้ว่า สิ่งนี้ไม่ควรทำให้เรากลัวจนหยุดใช้ AI เพราะความจริงแล้ว มนุษย์ถูกเทคโนโลยี disrupt มาโดยตลอด และสิ่งสำคัญไม่ใช่ว่า AI จะมาแทนที่เรา แต่คือ การเรียนรู้ที่จะใช้ AI อย่างถูกวิธี เพื่อยกระดับงานและชีวิต ไม่ให้สูญเสียคุณค่าของความเป็นมนุษย์

เริ่มต้นด้วยการเข้าใจโจทย์ของตัวเอง

คุณต่อเน้นว่า ก่อนจะถามว่า “ควรใช้ AI ตัวไหนดี” คำถามแรกที่ต้องตอบคือ เราต้องการทำอะไร เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนเวลาทำอาหาร เราเลือกหม้อสำหรับต้มน้ำ กระทะสำหรับผัด หรือมีดสำหรับหั่นปลาเนื้อขาว เนื้อแดง หรือผัก เพราะเรารู้ว่าโจทย์ของเราเป็นอย่างไร การเลือกเครื่องมือ AI ก็เช่นกัน หากเราไม่เข้าใจโจทย์ของตัวเอง เราจะวิ่งไล่ตามเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ออกทุกวันโดยไม่รู้จุดประสงค์ และสุดท้ายก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ

กฎ 3 ข้อในการเอาตัวรอดในยุค AI

เพื่อไม่ให้หลงทางในโลก AI คุณต่อเสนอ กฎ 3 ข้อ ที่ช่วยให้เราใช้เครื่องมืออย่างชาญฉลาดและไม่ทำให้ตัวเองห่วยลง

1. Don’t Just Chase Tools อย่าบ้าเครื่องมือ แต่โฟกัสที่วิธีนำไปใช้จริง
หลายคนติดกับดักของการค้นหา AI ใหม่ ๆ ที่เก่งกว่าเดิม แต่อย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้เราเก่งขึ้น การเลือกเครื่องมือควรเริ่มจาก โจทย์ของตัวเอง เข้าใจว่าเราต้องการให้ AI ทำอะไร แล้วมองหาเครื่องมือที่ตอบโจทย์นั้น

🔻 ตัวอย่างเช่น หากอยากทำวิดีโอ แต่ไม่ถนัดด้านนี้ AI สามารถช่วยสร้าง content ได้ แต่เราต้องเข้าใจว่าผลงานที่ได้อาจเป็นแค่ค่าเฉลี่ย ถ้าอยากให้งานดีขึ้นต้องเรียนรู้เพิ่มเติม
⚠️ สิ่งสำคัญคืออย่าเลือกเครื่องมือแบบ “รวมทุกอย่าง” เพราะมันอาจไม่ได้เหมาะกับโจทย์เฉพาะของเรา

หลักการง่าย ๆ ในการเลือกเครื่องมือ:
▪️ เข้าใจว่าเราอยากทำอะไร
▪️ เข้าใจ capability ของ AI ว่ามันทำอะไรได้บ้าง
▪️ หาว่าเครื่องมือไหนตอบโจทย์ capability นั้นได้

2. Tool Changes, Fundamentals Remain เครื่องมือเปลี่ยนไป แต่พื้นฐานยังอยู่

เครื่องมือ AI จะเปลี่ยนและพัฒนาไปเรื่อย ๆ แต่ หลักการพื้นฐานของการใช้เทคโนโลยียังคงอยู่ การเข้าใจพื้นฐานนี้ช่วยให้เราปรับตัวได้เร็วและเลือกเครื่องมือได้อย่างถูกต้อง

คุณต่อแนะนำ Framework 4 ข้อ สำหรับเลือก AI Tools:
▪️ Input: AI รับข้อมูลแบบไหน
▪️ Capability: AI ทำอะไรได้บ้าง มีข้อจำกัดอะไร
▪️ Output: AI สร้างผลลัพธ์เป็นอะไร เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ
▪️ Integration: AI เชื่อมต่อกับระบบหรือแพลตฟอร์มอะไรได้บ้าง

การเข้าใจ 4 ข้อนี้ ทำให้เราเลือกเครื่องมือตามความสามารถจริง ไม่ติดกับชื่อแบรนด์หรือความนิยม

3. Practice, Learn, and Re-learn – ฝึกฝน เรียนรู้ และเรียนรู้ใหม่

เพียงแค่เรียนรู้หรือใช้ AI ทุกวันไม่เท่ากับการ ฝึกใช้จริง การทำคือการใช้ Prompt ที่มีอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้คิดว่าจะปรับปรุงหรือทำให้ดีกว่าเดิม การฝึกคือการตั้งโจทย์ใหม่ ทดลองปรับ Prompt เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ การฝึกฝนแบบนี้เรียกว่า Deliberate Learning ช่วยให้เกิด mastery และสามารถใช้ AI สร้างคุณค่าได้จริง

คุณต่อเปรียบเทียบเหมือนการขับรถ แม้จะขับมานาน 20 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งเท่ากับนักแข่ง หากเราใช้ AI แบบเดิม ๆ โดยไม่คิดปรับปรุง เราก็จะอยู่กับมันแบบตามน้ำ ไม่ได้เก่งขึ้น

บทบาทของมนุษย์ในโลก AI

AI สามารถช่วยเราในหลายงาน แต่ สิ่งที่มนุษย์ต้องทำเองยังคงสำคัญ
▪️ งานที่เราทำได้ดี: ให้ AI ช่วยประหยัดเวลา แต่เราต้องเข้าใจความสามารถและข้อจำกัด
▪️ งานที่เราไม่ถนัด: ให้ AI ทำแทน แต่ต้องเข้าใจ input, output, และข้อจำกัดของมัน
▪️ งานที่ต้องทำเอง: การตัดสินใจและความรับผิดชอบยังเป็นหน้าที่ของมนุษย์

คุณต่อชวนให้ตั้งคำถามกับตัวเองทุกครั้งที่ AI ทำงานไม่ถูกใจ เช่น AI ทำไม่ได้ หรือเราไม่เข้าใจวิธีบรีฟ, AI ไม่ช่วยเรา หรือเราไม่รู้ว่าจะให้ช่วยตรงไหน สิ่งเหล่านี้เป็น checkpoint ที่ทำให้เรายังอยู่เหนือเครื่องมือ และรักษาทักษะมนุษย์ไม่ให้ฝ่อ

ข้อคิดสุดท้าย

คุณต่อฝากคำเปรียบเปรยที่ทั้งชวนคิดและขำว่า

“AI ควรช่วยเราล้างจานเพื่อให้เรามีเวลาไปเขียนโค้ด แต่กลับกลายเป็นว่า AI มาช่วยเราเขียนโค้ด แล้วเราต้องไปล้างจานแทน”

อาจดูเหมือนตลก แต่ข้อคิดนี้สะท้อนว่า หากเราใช้ AI ไม่เป็น ไม่ฝึกฝน ไม่เข้าใจบทบาทของมัน เราอาจสูญเสียความสามารถและคุณค่าของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

การอยู่ร่วมกับ AI อย่างชาญฉลาดจึงไม่ใช่แค่เรื่องการใช้เครื่องมือให้เป็น แต่คือ การฝึกคิด ฝึกปรับ และสร้างคุณค่าในมุมมองของมนุษย์ ให้ได้เหนือเครื่องมือได้นั่นเอง

📌  สุดท้ายนี้ หากผู้บริหารหรือผู้นำที่ต้องการยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจในยุคที่ AI Disruption ให้ TDA เป็นที่ปรึกษาด้าน Corporate In-House Training  👉 ติดต่อ [email protected] หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)