5 วิธีดูแลใจทีมงานไม่ให้เกิด “AI Burnout”

5 วิธีดูแลใจทีมงานไม่ให้เกิด “AI Burnout”

Business

3 นาที

07 พ.ค. 2025

แชร์

ทำงานจน Burnout ว่าเศร้าแล้ว ใช้ AI จน Burnout เศร้าใจยิ่งกว่า!

ทุกวันนี้ บริษัททั่วโลกต่างพูดถึง AI และ generative AI กันอย่างต่อเนื่อง หลายแห่งเริ่มทดลองใช้จริง บ้างก็เริ่มขยายการใช้งานอย่างจริงจัง แต่ในขณะที่องค์กรต่างตื่นตัวและเร่งเดินหน้าไปกับ AI แต่สิ่งที่อาจถูกมองข้ามก็คือ ความเสี่ยงที่พนักงานจะ “หมดไฟ” จากการปรับตัวอย่างรวดเร็วเกินไป

AI Burnout: เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่ทางออก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความเหนื่อยล้า

แม้ AI จะถูกยกย่องว่าเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ในบางกรณี การใช้งานที่มากเกินไปกลับทำให้พนักงานเผชิญกับ “AI Burnout” หรือ ความเครียดและอ่อนล้าจากการปรับตัวใช้เทคโนโลยีนี้

การศึกษาจาก Upwork Research Institute พบว่า 77% ของพนักงานที่ใช้ AI รายงานว่างานของพวกเขามีภาระงานเพิ่มขึ้น และรู้สึกเครียดมากขึ้น แทนที่จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นตามที่ผู้บริหารคาดหวัง เกือบครึ่งหนึ่งของพนักงานไม่มั่นใจว่าจะใช้ AI อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ 40% รู้สึกว่าบริษัทคาดหวังมากเกินไปจากการใช้ AI ซึ่งนำไปสู่ความเหนื่อยล้าและความไม่พอใจในงาน

Shane McFeely นักจิตวิทยาองค์กรจาก Quantum Workplace ชี้ว่า Burnout ไม่ใช่แค่การขาด Engagement แต่เป็นบันไดนำไปสู่ภาวะนั้น โดยพนักงานที่เคยมีแรงจูงใจสูงอาจสูญเสียพลังใจและความผูกพันกับองค์กรจนรู้สึกว่า “ไม่อยากอยู่ต่อไป”

3 สาเหตุหลักที่ AI ทำให้นำไปสู่ภาวะหมดไฟในการทำงาน

1. แรงกดดันให้ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ (Upskill Pressure)
หลายองค์กรผลักดันให้พนักงานเรียนรู้และใช้ AI อย่างรวดเร็ว แต่กลับ ขาดการสนับสนุนที่เพียงพอ ทั้งเวลา การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ หรือเป้าหมายที่สมจริง เมื่อพนักงานไม่สามารถปรับตัวได้ทันหรือใช้งาน AI ไม่สำเร็จ พวกเขามักรู้สึกตามไม่ทัน หรือล้มเหลว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเครียดและความเหนื่อยล้า

2. ความไม่มั่นคงในอาชีพ (Job Insecurity)
เมื่อ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาทำงานแทนมนุษย์มากขึ้น พนักงานหลายกลุ่มเริ่มเผชิญ ความกังวลว่าจะถูกแทนที่ เช่น
– พนักงานบริการลูกค้าที่กลัวว่า Chatbot จะมาแทนที่บทบาทของตน
– แรงงานสายผลิตที่กังวลว่า หุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ จะเข้ามาแย่งงาน

ความกลัวว่าจะ “ล้าสมัย” หรือ “ไม่จำเป็นอีกต่อไป” ก่อให้เกิดความเครียดสะสม และความวิตกกังวลต่ออนาคตการทำงาน

3. งานซับซ้อนและเพิ่มขึ้น แม้จะมี AI ช่วย (Increased Workload & Complexity)
แม้ AI จะช่วยลดงาน Routine บางส่วน แต่ในทางปฏิบัติ กลับสร้างความซับซ้อนใหม่ เช่น พนักงานต้อง ตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์จาก AI แก้ไขข้อผิดพลาดที่ระบบสร้างขึ้น และรับผิดชอบงานเพิ่มเติมจากการทำงานร่วมกับ AI สุดท้ายแทนที่ AI จะลดภาระ กลับกลายเป็นว่า เพิ่มภาระใหม่เข้ามาโดยไม่ตั้งใจ(ในบางกรณี)



5 วิธีเติมพลังทีม รับมือภาวะหมดไฟจากการใช้ AI

1. ปรับใช้ AI อย่างเป็นขั้นตอน
องค์กรควรนำ AI เข้ามาอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ของพนักงานในทุกขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง

2. สื่อสารชัดเจน รับฟังจริงใจ
กำหนดแนวทางการใช้ AI ให้ชัดเจน ทั้งในแง่ขอบเขตการทำงาน หลักสูตรฝึกอบรม และความคาดหวังจากพนักงาน โดยหลีกเลี่ยงการสื่อสารแบบคลุมเครือหรือสั่งการจากบนลงล่าง

3. เปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็น
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้พนักงานมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมและเปิดรับเทคโนโลยีใหม่มากขึ้น

4. ใช้ AI เป็นตัวช่วย ไม่ใช่ตัวแทน
เน้นย้ำบทบาทเสริมของ AI ชี้ให้เห็นว่า AI เป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงาน ไม่ใช่คู่แข่ง โดยอธิบายว่ามาช่วยลดงานประจำให้นัก เพื่อให้พนักงานมีเวลาโฟกัสงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์มากขึ้น

5. สนับสนุนการเรียนรู้อย่างเต็มที่
จัดตั้งทีมสนับสนุนเฉพาะทาง เช่น “ศูนย์ช่วยเหลือ AI” หรือ “ทีมที่ปรึกษาด้าน AI” เพื่อให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาให้พนักงานได้อย่างทันท่วงที


สรุป แม้ AI จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพ แต่ก็สร้างความกดดันให้พนักงาน หากองค์กรไม่จัดการอย่างเหมาะสม ทั้งในด้าน การฝึกอบรม ความมั่นคงในอาชีพ และการกระจายงาน เทคโนโลยีนี้ก็อาจกลายเป็น ตัวเร่งให้พนักงานหมดไฟได้เร็วกว่าเดิม

ทางออกคือการออกแบบระบบทำงานแบบ “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” (Human-Centric AI) ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความยั่งยืนของพนักงานควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ความก้าวหน้าทางดิจิทัลไม่กลายเป็นต้นทุนทางจิตใจของบุคลากร

——
📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions 
ติดต่อ [email protected]
หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)
——

Sources:
www.forbes.com/sites/bryanrobinson/2024/07/23/employees-report-ai-increased-workload
www.cnbc.com/2024/08/16/ai-burnout-workers.html
www.themuse.com/advice/ai-burnout