AI Search กำลังฆ่า SEO แบบเก่า: บทสรุป Age of AI Search เมื่อทุกการค้นหาเปลี่ยนไป นักการตลาดต้องปรับตัวอย่างไร

AI Search กำลังฆ่า SEO แบบเก่า: บทสรุป Age of AI Search เมื่อทุกการค้นหาเปลี่ยนไป นักการตลาดต้องปรับตัวอย่างไร

Business

3 นาที

22 ก.ย. 2025

แชร์

โลกการค้นหากำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี และผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็คือ เจ้าของเว็บไซต์ นักการตลาด และแบรนด์ ที่ต้องแข่งขันในสมรภูมิใหม่ที่ AI เข้ามามีบทบาทเป็น “ตัวกลาง” ระหว่างผู้ใช้กับข้อมูล

คุณไอซ์ ศิริพงษ์ กลิ่นขจร CEO & Co-Founder จาก Nerd Optimize ได้อธิบายอย่างชัดเจนบนเวที #TDANEXT2025 ว่า Google Search ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และใครที่ไม่เร่งปรับตัว อาจสูญเสียโอกาสทางธุรกิจมหาศาล

จุดเปลี่ยนของ Search: จาก Keywords สู่ Conversational Search

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้คุ้นเคยกับการค้นหาด้วยคำสั้น ๆ เช่น “ที่เที่ยวโตเกียว” หรือ “โรคเกาต์ อาการ” แต่การมาของ AI Overview และ AI Mode ที่ฝัง Gemini ลงในหน้าค้นหาของ Google ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนเป็นการค้นหาแบบ บทสนทนา (Conversational Search) ที่ยาวขึ้นและเฉพาะเจาะจงยิ่งกว่าเดิม เช่น จากเดิมที่เคยพิมพ์ “ที่เที่ยวโตเกียว” กลายเป็น “แผนเที่ยวโตเกียว 1 วัน สำหรับครอบครัวที่มีลูกชายวัย 3 ขวบ”

AI เป็นตัวกลางใหม่: จาก Search Engine เป็น AI Engine

Google ได้นำฟีเจอร์ AI Overview และ AI Mode (Gemini) มาเสริมการค้นหา ทำให้ AI เป็นผู้สรุปและตอบคำถามโดยตรง ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องกดเข้าเว็บไซต์อีกต่อไป ส่งผลให้ Traffic เว็บไซต์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ (Healthcare) ที่ผู้ใช้ต้องการข้อมูลเฉพาะทางอย่างรวดเร็ว

AI ไม่ได้เพียงแค่ดึงข้อมูล แต่ยังทำ Query Fanout หรือการแตกแขนงคำถามย่อยไปหาคำตอบจากหลายแหล่ง ก่อนจะสรุปเป็นคำตอบเดียวในหน้า Search ซึ่งหมายความว่า “เว็บไซต์” ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของการค้นหาอีกต่อไป แต่เป็นเพียง “แหล่งข้อมูล” ให้ AI เลือกไปใช้

กลยุทธ์ใหม่: จาก SEO สู่ AI Search Optimization

คุณไอซ์ย้ำว่า การทำ SEO แบบเดิมไม่พออีกต่อไป เพราะ AI จะเลือกเนื้อหาจากแบรนด์ที่มี ความน่าเชื่อถือและตัวตนชัดเจน เท่านั้น โดย 3 ปัจจัยหลักที่มีผลต่อ AI Result คือ

– Brand Web Mentions แบรนด์ที่ถูกพูดถึงบ่อยในเว็บไซต์อื่น ๆ
– Branded Anchors การมีลิงก์กลับ (Backlink) ที่ใช้ชื่อแบรนด์เป็นข้อความ
– Branded Search Volume ปริมาณการค้นหาแบรนด์โดยตรง ซึ่งสะท้อนความนิยม

3 กลยุทธ์การปรับตัวที่ธุรกิจต้องทำทันที

1. เตรียมเว็บไซต์ให้พร้อม (Technical Readiness)
– ตรวจสอบ robots.txt ว่าอนุญาตให้ AI Bots เข้ามาเก็บข้อมูล
– ใช้ LLM.txt เพื่อบอก AI ว่าเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร
– ติดตั้ง AI Card เพื่อเพิ่มโอกาสให้ ChatGPT และ AI อื่น ๆ ดึงข้อมูลไปใช้ได้

2. ปรับกลยุทธ์คอนเทนต์ (Hyper-Personalized Content)
– ใช้ Structured Data (Schema Markup) เพื่อให้ AI เข้าใจข้อมูลบนเว็บไซต์
– สร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ Super Long-tail Keyword เช่น “โปรแกรม HR สำหรับ SME ขนาด 30 คน” หรือ “คลินิกเสริมความงามสำหรับผู้ชายวัย 40 ปี”
– เน้นเนื้อหาที่เจาะลึกและตรงปัญหา ไม่ใช่คอนเทนต์กว้าง ๆ ที่ AI สามารถสรุปได้เอง

3. สร้างตัวตนของแบรนด์ (Branding & Omnichannel)
– ทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงในหลายช่องทาง เช่น ข่าว, รีวิว, YouTube
– ใช้ ชื่อแบรนด์ ใน Anchor Text ของ Backlink
– กระตุ้นให้คนค้นหาแบรนด์โดยตรง เพื่อเพิ่ม Branded Search Volume

Insight สำคัญ: AI Search ไม่ใช่แค่ SEO แต่คือ “การสร้างอำนาจแบรนด์”

ในโลกที่ AI เลือกคำตอบแทนผู้ใช้ สิ่งที่ชี้ชะตาคือความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ไม่ใช่เพียงการใส่คีย์เวิร์ดหรือทำ SEO แบบเดิม ๆ อีกต่อไป เว็บไซต์ที่ “พร้อมทางเทคนิค” + “คอนเทนต์เฉพาะเจาะจง” + “แบรนด์แข็งแรง” จะมีโอกาสถูกเลือกมากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มีตัวตนในโลกดิจิทัล

ดังที่คุณไอซ์สรุปไว้ว่า:
“เว็บไซต์ต้องพร้อม คอนเทนต์ต้องเฉพาะเจาะจง และแบรนด์ต้องเป็นที่รู้จักในทุกช่องทาง นี่คือหนทางที่จะทำให้เราไม่เพียงแค่รอด แต่ยังเติบโตได้ในยุค AI Search”

สุดท้ายแล้ว “Age of AI Search” ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคนิค แต่เป็น การเปลี่ยนเกมธุรกิจ ที่บังคับให้ทุกองค์กรต้องหันมาลงทุนกับ คุณภาพคอนเทนต์ + ความแข็งแรงของแบรนด์ ไปพร้อมกัน

—–

📌  สนใจยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจในยุคที่ AI Disruption ให้ TDA เป็นที่ปรึกษาด้าน Corporate In-House Training  👉 ติดต่อ [email protected] หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)