ภัยไซเบอร์ไม่รอวันจันทร์ 15 บทเรียนที่องค์กรต้องรู้ ก่อนถูกบังคับให้เรียนรู้เอง

ภัยไซเบอร์ไม่รอวันจันทร์ 15 บทเรียนที่องค์กรต้องรู้ ก่อนถูกบังคับให้เรียนรู้เอง

AI

3 Min

13 Nov 2025

Share

📌 สรุป 15 สาระสำคัญจาก TDG Techwise EP.02 “From Incident to Improvement : What We Learn from CyberSecurity Breached” โดย คุณหนุ่ย ฐิติรัตน์ ศิริพัฒนาเลิศ Head of Information Security and Data Management Division, True Digital Group ที่จะชวนมาเข้าใจและเรียนรู้บทเรียนจากเหตุการณ์ภัยไซเบอร์ และแนวทางเสริมสร้าง “ภูมิต้านทานทางไซเบอร์” (Cyber Resilience) ที่องค์กรควรนำมาใช้ในการรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ในปัจจุบัน

1. ภัยไซเบอร์เกิดขึ้นถี่และรวดเร็ว
ทั่วโลกมีการโจมตีทุก 39 วินาที และใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 62 นาทีจากเริ่มต้นจนเจาะระบบสำเร็จ องค์กรต้องมีระบบตรวจจับและตอบสนองแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่รอให้เหตุเกิดก่อนค่อยแก้ไข

2. ตรวจจับและหยุดภัยให้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง
โดยเป้าหมายของการรับมือที่ดีคือ “ตรวจจับใน 1 นาที → วิเคราะห์ใน 10 นาที → หยุดภัยให้ได้ภายใน 60 นาที” เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลาม โดยมีทีม Incident Response ที่พร้อมทำงาน 24/7

3. รูปแบบการโจมตีซับซ้อนและเปลี่ยนไปตลอดเวลา
จากเดิมที่ใช้มัลแวร์หรืออีเมลหลอกลวง (Phishing) ตอนนี้ผู้ร้ายใช้ช่องโหว่ทั่วไปในระบบ เช่น Windows หรือ Application รวมถึงเทคนิค Social Engineering, Deepfake และ Supply Chain Attack ทำให้การตรวจจับยากขึ้น จำเป็นต้องอัปเดตระบบและ Patch อยู่เสมอ

4. การขโมยข้อมูลและตลาดมืด (Dark Web) เติบโตขึ้นกว่า 112%
ผู้ร้ายมีแรงจูงใจทางการเงินสูงขึ้น การป้องกันข้อมูล (Data Protection) และเข้ารหัสข้อมูลสำคัญจึงเป็นเรื่องจำเป็น และต้องเสริมระบบป้องกันหลายชั้น ไม่ใช่พึ่งเพียง Firewall หรือ Antivirus

5. Ransomware ยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรง
ผู้โจมตีปรับตัวตลอดเวลา บางองค์กรตอบสนองช้า ทำให้สูญเสียข้อมูล ระบบ และเงินจำนวนมากจากการจ่ายค่าไถ่


6. องค์กรต้องมีระบบ Monitoring 24 ชั่วโมง
เพราะการโจมตีมักเกิดช่วงเวลากลางคืนหรือวันหยุด การมีศูนย์เฝ้าระวังหรือระบบแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์จึงช่วยลดความเสียหายและควบคุมสถานการณ์ได้เร็วขึ้น

7. Incident Response Plan ที่ชัดเจนช่วยจำกัดวงเหตุได้เร็ว
ต้องมีแผนและขั้นตอนชัดเจนว่า เมื่อมีเหตุผิดปกติเกิดขึ้น ใครรับผิดชอบ ตรวจสอบอย่างไร และจะตัดการเชื่อมต่อเมื่อใด เพื่อป้องกันไม่ให้การโจมตีลุกลาม

8. รู้จักทรัพย์สินดิจิทัลขององค์กรให้ครบ
โดยสร้าง “Asset Inventory” และ “Network Diagram” เพื่อรู้ว่าเครื่องไหนเชื่อมกับอะไร ใครดูแล เมื่อเกิดเหตุสามารถตามตัวผู้รับผิดชอบและจำกัดวงการโจมตีได้ภายในไม่กี่นาที

9. จุดอ่อนใหญ่ที่สุดคือ “ความประมาทคน”
ความประมาท เช่น ตั้งรหัสผ่านง่าย ใช้เครื่องส่วนตัวเชื่อมต่อระบบบริษัท หรือเปิด Remote Desktop แบบสาธารณะ ล้วนเพิ่มความเสี่ยง จึงควรมี Password Policy, MFA และอบรมต่อเนื่อง

10. ความเสี่ยงจาก Partner และ Third Party ก็ไม่ควรมองข้าม
แม้องค์กรเราปลอดภัย แต่หาก Partner ถูกเจาะ ระบบที่เชื่อมต่อกันก็อาจรั่วไหลได้ จึงต้องมีการประเมินความเสี่ยง (Vendor Risk Assessment) และกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยร่วมกัน

11. องค์กรที่มองข้ามสัญญาณเตือน ไม่ตรวจสอบต่อ มักตกเป็นเหยื่อ
เมื่อระบบแจ้งเตือน องค์กรที่มองข้ามสัญญาณเตือน ไม่ตรวจสอบต่อ ขาดการสื่อสารระหว่างทีม IT และผู้ดูแลระบบจริง อาจตกเป็นเหยื่อการถูกโจมตี และนำไปสู่ความเสียหาย เช่น บริการหยุดชะงัก สูญเสียรายได้มหาศาล หรืออาจสูญเสียเงินกว่าพันล้านบาทจาก Ransomware หรือค่าไถ่ซอฟต์แวร์

12. Cybersecurity ต้องผสาน People + Process + Technology
เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีคนที่เข้าใจและกระบวนการที่พร้อมใช้งานจริง เพื่อให้การป้องกันและตอบสนองมีประสิทธิภาพสูงสุด

รวมถึงติดตั้งและตั้งค่า EDR อย่างถูกต้องครบทุกเครื่อง พร้อมกำหนด Policy ให้แจ้งเตือนเฉพาะเหตุสำคัญ และใช้ระบบ whitelist/configuration เพื่อลด false alert ทำให้ตรวจจับภัยได้แม่นยำขึ้น

13. ภัยไซเบอร์ไม่ใช่แค่เรื่องของฝ่าย IT อีกต่อไป
แต่คือ “ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ขององค์กร” ที่กระทบต่อชื่อเสียง ความเชื่อมั่น และมูลค่าทางธุรกิจ หากไม่เตรียมพร้อม อาจสูญเสียทั้งข้อมูลและโอกาสทางธุรกิจในเวลาอันสั้น

14. วัฒนธรรม “เอ๊ะ!” คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด
องค์กรที่ “รอด” มักมี mindset สงสัยไว้ก่อน (Be Vigilant) ทุกคนในทีมรู้หน้าที่ และไม่ปล่อยผ่านสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อระบบแจ้งเตือน

15. ความร่วมมือและการเรียนรู้ต่อเนื่องคือหัวใจของ Cyber Resilience
Cybersecurity ไม่ใช่เรื่องครั้งเดียวจบ แต่เป็นวงจรเรียนรู้จากเหตุจริง (Post-Incident Review) เพื่อปรับปรุงให้ระบบแข็งแรงขึ้น และสร้างวัฒนธรรมความตระหนักรู้ในทุกระดับขององค์กร ไม่ใช่แค่ฝ่าย IT เท่านั้น

สรุปทิ้งท้าย

การถูกโจมตีทางไซเบอร์อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ “ความเสียหาย” สามารถป้องกันได้ ถ้าองค์กรพร้อมเรียนรู้จากทุกเหตุการณ์ และไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดผ่านไปโดยไม่ปรับปรุง

เพราะสุดท้ายแล้ว… Cybersecurity ไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่คือการทำงานร่วมกันของคนทั้งองค์กร เพื่อรักษาความเชื่อมั่นไว้ให้ได้ทุกวัน

———-

📌 สนใจ Corporate In-House Training ยกระดับทักษะคนในองค์กรด้วย AI–People Enablement Solutions
📩 ติดต่อ: [email protected]
📞 โทร. 082-297-9915 (คุณโรส)