ถ้าจะทำงานหนัก ก็ควรทำงานหนักกับตัวเอง! วิธีเอาตัวรอดในยุคใหม่ ที่ AI แทนไม่ได้
ถ้าจะทำงานหนัก ก็ควรทำงานหนักกับตัวเอง! วิธีเอาตัวรอดในยุคใหม่ ที่ AI แทนไม่ได้
AI
3 Min
26 Sep 2025
Share
Table of contents
แม้เราจะอยู่ในยุค AI Apocalypse ที่หลายอาชีพอาจถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่การ “กลัว AI” หากแต่คือการหาทาง “อยู่รอด” และ “ใช้โอกาส” จากการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้
นี่คือสรุปจาก Session How to Survive? The First Principles โดย คุณทอย กษิดิศ สตางค์มงคล ผู้เชี่ยวชาญด้าน Data เจ้าของเพจ DataRockie จากงาน TDA Next 2025 ที่จะมาแชร์วิธีการเอาตัวรอดในยุคที่ AI พร้อมจะแซงหน้าเราตลอดเวลา
เข้าใจชีวิตอย่างเป็นระบบ ด้วย Framework “Inflow – Stock – Outflow”
คุณทอยได้หยิบยกแนวคิด “Systems Thinking” จากหนังสือของ Donella Meadows ที่เน้นการเข้าใจระบบของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นผลลัพธ์ใหม่ ๆ ที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้เสมอ
โดยพื้นฐานที่ Donella Meadows เสนอไว้คือ Inflow – Stock – Outflow เป็นโครงสร้างพื้นฐานของทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นคน เงิน ทรัพยากร หรือแม้แต่ข้อมูล ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
▪️ Stock = สิ่งที่สะสมอยู่ เช่น เงิน องค์ความรู้ หรือทรัพยากร
▪️ Inflow = สิ่งที่เข้ามาเติม Stock เช่น รายได้ หรือการเรียนรู้ใหม่ ๆ
▪️ Outflow = สิ่งที่ไหลออก ทำให้ Stock ลดลง เช่น ค่าใช้จ่าย หรือการสูญเสียทักษะ
การเข้าใจระบบนี้ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของชีวิต และรู้ว่าถ้าอยากอยู่รอดหรือสร้างการเปลี่ยนแปลง ต้องโฟกัสที่การปรับ Inflow และ Outflow ไม่ใช่แค่เฝ้ามอง Stock เพียงอย่างเดียว
คุณทอยเปรียบเทียนกับการทำงานในปัจจุบัน ที่หลายคนยังพึ่งพา “รายได้จากงานประจำ” (Inflow) เพียงทางเดียว แต่เมื่อเจอ AI Disruption หรือความเสี่ยงถูกเลิกจ้าง ขณะที่ค่าใช้จ่าย (Outflow) เพิ่มขึ้น ทำให้ Stock ทางการเงิน สั่นคลอนได้ทันที
ทฤษฎีป่ามืด (Dark Forest Theory) ความเสี่ยงที่แท้จริงในโลก AI ไม่ใช่หุ่นยนต์ แต่คือคนที่ใช้มันผิดทาง
Dark Forest Theory มาจากหนังสือชื่อว่า The Three-Body Problem ของ Liu Cixin ที่เปรียบว่า จักรวาลเหมือนป่ามืดที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต แต่ละอารยธรรมต่างต้องการอยู่รอด เต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจกัน ทางรอดที่ปลอดภัยที่สุดคือ การซ่อนตัว หรือ ทำลายอีกฝ่ายก่อน ซึ่งโลกปัจจุบันของเราตอนนี้ก็ไม่ต่างจากป่ามืดทางเทคโนโลยี
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ AI เอง แต่คือ “มนุษย์ที่ใช้ AI ในทางที่ผิด” เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อชีวิตและอนาคตของคนอื่นได้ เช่น การปลดพนักงานเมื่อ AI ทำงานแทนได้แล้ว
ดังนั้น Survival Skill ในยุค AI ไม่ได้มีแค่การพัฒนาตัวเอง แต่ยังต้องมีจริยธรรม (Ethics) และความรับผิดชอบต่อการใช้ AI ด้วย
Language Creates the Brain: ภาษา สร้างสมองและโอกาสให้อยู่รอดในยุค AI
“ภาษา” ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสาร แต่คือเครื่องมือที่สร้างสมองและโอกาส คนที่มีคลังคำศัพท์มากกว่าย่อมคิดได้ลึกกว่าและก้าวหน้าได้มากกว่า
แต่ปัจจุบัน หลายคนอ่านหนังสือและเขียนน้อยลง ทำให้สมองได้รับ input ที่น้อยและตื้น ในขณะที่ AI กลับพัฒนาเร็วขึ้นทุกวัน เรียนรู้จากภาษามหาศาล และถูกออกแบบมาเพื่อแข่งกับ “มนุษย์ที่เก่งที่สุด” ไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป คุณทอย จึงอยากแนะนำให้ทุกคนพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ถูกแทนที่ โดยเฉพาะการใช้ภาษา
▪️ อ่านและเขียนทุกวัน
▪️ สะสมคำใหม่ ๆ และความรู้จากหลายศาสตร์
▪️ ใช้ภาษาเพื่อคิด สร้างสรรค์ และสื่อสาร
นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เพราะการเข้าใจภาษาอย่างลึกซึ้งคือสิ่งที่ AI ยังเลียนแบบไม่ได้ และทำให้มนุษย์แตกต่างจากเครื่องจักรที่ไร้ความฝัน ความหวัง และความคิดสร้างสรรค์
วิธีหาเงินให้อยู่รอดในยุค AI
เมื่อ AI ทำงานแทนมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง คำถามใหญ่คือ “เราจะหาเงินอย่างไร?” เพราะในอนาคต เงินจะหายากขึ้น และการแข่งขันจะยิ่งดุเดือดกว่าเดิม
คุณทอยชี้ว่า เราต้องเลือกว่าจะ “ทำงานหนักเพื่อคนอื่น?” หรือ “ทำงานหนักเพื่อตัวเอง?”
หลังจากนี้ควรกำหนดเป้าหมายแล้วเลือกที่จะ “Work harder on yourself, not just your job” ทำงานหนักเพื่อตัวเอง ลงทุนกับทักษะ ความรู้ และการสร้างคุณค่าที่แตกต่าง ที่ AI ไม่สามารถแทนได้ ซึ่งจะเป็นทางรอดและทางเติบโตในโลกอนาคต
Survival Skill ในยุค AI = พัฒนาตัวเองให้เหนือ AI ไม่ใช่แค่ทำงานหนักกว่า แต่คือการสร้างสิ่งที่ AI ไม่มี
—–
📌 สนใจยกระดับทักษะองค์กรด้วย AI-People Enablement Solutions เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจในยุคที่ AI Disruption ให้ TDA เป็นที่ปรึกษาด้าน Corporate In-House Training
👉 ติดต่อ [email protected] หรือโทร 082-297-9915 (คุณโรส)