เปิด Insight จริง! ที่คนนอกไม่รู้ องค์กรและบริษัทใช้ Excel ร่วมกับ AI ทำอะไรได้บ้าง

เปิด Insight จริง! ที่คนนอกไม่รู้ องค์กรและบริษัทใช้ Excel ร่วมกับ AI ทำอะไรได้บ้าง

AI

4 Min

14 Oct 2025

Share

ใคร ๆ ก็รู้จัก Excel แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะพูดได้เต็มปากว่า “ใช้เป็น” จริง ๆ

หลายคนยังมองว่า Excel เป็นแค่ตารางสำหรับพิมพ์ชื่อสินค้า ที่อยู่ หรือคำนวณตัวเลขง่าย ๆ แต่รู้ไหมว่านั่นเป็นเพียง 1% ของศักยภาพทั้งหมดเท่านั้น!

ในโลกธุรกิจจริง ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรระดับโลก Excel ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือกรอกข้อมูล แต่เป็น “เครื่องมือสำคัญทางธุรกิจ” ที่ช่วยบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างทรงพลัง โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Cloud เข้ามาช่วยเสริม ทำให้ Excel ทำงานอัตโนมัติได้มากขึ้น คิด วิเคราะห์ และสรุปผลได้ฉลาดกว่าเดิม

วันนี้เราจะพาไปเปิด 7 Use Cases จริงของการใช้ Excel + AI ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

1. จัดการและจัดระเบียบข้อมูล (Data Organization & Management)

Excel คือเครื่องมือจัดข้อมูลชั้นยอดที่ช่วยสร้างโครงสร้างข้อมูลธุรกิจให้เป็นระบบ เช่น รายชื่อลูกค้า รายงานการขาย หรือข้อมูลพนักงาน ด้วยฟีเจอร์อย่าง Tables และ Data Validation ช่วยลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อนและทำงานได้ไหลลื่น

และเมื่อใช้ร่วมกับ AI คุณสามารถให้ระบบช่วย “ล้างข้อมูล (Data Cleaning)” ตรวจสอบความถูกต้อง และจัดรูปแบบอัตโนมัติได้ทันที ข้อมูลจึงมีความแม่นยำ พร้อมใช้งาน โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งแก้เอง

ตัวอย่างการใช้งานจริง:
▪️ ธุรกิจขนาดเล็ก: จัดทำรายชื่อลูกค้าและบันทึกยอดขาย
▪️ บริษัทใหญ่: ติดตามข้อมูลพนักงานและประสิทธิภาพการทำงาน
▪️ บริษัทโลจิสติกส์: จัดการข้อมูลการขนส่งและตารางจัดส่งสินค้า

2. การเงินและการจัดทำงบประมาณ (Financial Calculations & Budgeting)

Excel ช่วยให้การวางแผนทางการเงิน การจัดทำงบประมาณ คำนวณรายรับรายจ่าย และติดตามค่าใช้จ่ายให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น ด้วยสูตรคำนวณอย่าง SUMIF หรือ VLOOKUP รวมถึงการสร้างรายงานทางการเงิน คาดการณ์รายได้ และวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไร

โดยในปัจจุบัน AI ช่วยเขียนสูตรและวิเคราะห์ให้โดยอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องจำหรือเขียนสูตรเองอีกต่อไป รวมถึงสามารถสร้างแบบจำลองพยากรณ์รายได้โดยอิงจากปัจจัยเศรษฐกิจภายนอก เพื่อให้การคำนวณ “ใกล้เคียงความจริง” มากที่สุด

ตัวอย่างการใช้งานจริง:
▪️ สตาร์ทอัพ: ติดตามการลงทุนและบริหารต้นทุน
▪️ บริษัทบัญชี: จัดทำงบกำไรขาดทุนและรายงานภาษี
▪️ ร้านค้าปลีก: ตรวจสอบงบประมาณและวิเคราะห์รายได้รายเดือน

3. การวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงานทางธุรกิจ (Data Analysis & Business Reporting)

Excel ช่วยให้ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลและแนวโน้มได้ง่ายขึ้น ด้วยเครื่องมืออย่าง PivotTables, Charts และ Conditional Formatting ที่เปลี่ยนข้อมูลซับซ้อนให้เข้าใจในพริบตา

AI ยังช่วยเสริมพลังในการ “ค้นหา Insight ที่ซ่อนอยู่” และตรวจจับความผิดปกติ (Anomalies) ในชุดข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงแนะนำรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสมที่สุด ไม่ต้องจ้าง Data Analyst มืออาชีพก็วิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเองได้

ตัวอย่างการใช้งานจริง:
▪️ ทีมการตลาด: วิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญและพฤติกรรมลูกค้า
▪️ นักวิเคราะห์การเงิน: ประเมินโอกาสลงทุนและความเสี่ยง
▪️ ธุรกิจค้าปลีก: ระบุสินค้าขายดีและแนวโน้มตามฤดูกาล

4. การจัดการการขายและสินค้าคงคลัง (Sales & Inventory Management)

Excel ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการติดตามยอดขายและควบคุมสต็อกสินค้า สามารถคำนวณระดับสินค้าคงคลัง จุดสั่งซื้อซ้ำ (Reorder Points) และแนวโน้มยอดขายได้อย่างแม่นยำ

เมื่อใช้ร่วมกับ AI ระบบจะช่วยพยากรณ์ความต้องการสินค้า โดยพิจารณาปัจจัยภายนอก เช่น ฤดูกาลหรือพฤติกรรมผู้บริโภค ผลลัพธ์คือ ลดต้นทุนการสต็อกของ และลดความเสี่ยงสินค้าขาดตลาดได้จริง

ตัวอย่างการใช้งานจริง:
▪️ ร้านค้าออนไลน์: ติดตามยอดขายและอัปเดตสต็อกอัตโนมัติ
▪️ ผู้ผลิต: ตรวจสอบวัตถุดิบและคำสั่งซื้อจากซัพพลายเออร์
▪️ ค้าส่ง: พยากรณ์ความต้องการและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บสินค้า

5. ระบบอัตโนมัติและการเพิ่มผลิตภาพ (Automation & Productivity)

Excel มีระบบ Macros (VBA) และเทมเพลตที่ช่วยลดเวลาทำงานซ้ำ ๆ เช่น การป้อนข้อมูล ออกใบแจ้งหนี้ หรือคำนวณเงินเดือน

เมื่อรวมกับ AI จะช่วยจำลองขั้นตอนงานอัตโนมัติ สร้าง Workflow แบบ “No Code” เพื่อให้ระบบทำงานแทนคนได้ในระดับที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

ตัวอย่างการใช้งานจริง:
▪️ ฝ่าย HR: คำนวณเงินเดือนและเช็กเวลาเข้างานอัตโนมัติ
▪️ ฝ่ายบัญชีและกากรเงิน: สร้างรายงานค่าใช้จ่ายประจำเดือน
▪️ Project Manager: วางแผนตารางงานและจัดสรรทรัพยากรแบบอัตโนมัติ

6. การพยากรณ์และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ (Business Forecasting & Decision-Making)

Excel เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจมองเห็นอนาคตได้ชัดขึ้น สามารถนำข้อมูลในอดีตมาสร้างแบบจำลองพยากรณ์ (Forecasting Models) เพื่อใช้วางแผนเชิงกลยุทธ์

AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ Scenario Analysis หลายร้อยรูปแบบได้ในเวลาไม่กี่นาที ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและแม่นยำมากขึ้น

ตัวอย่างการใช้งานจริง:
▪️ ค้าปลีก: คาดการณ์ยอดขายตามฤดูกาล
▪️ นักลงทุน: วิเคราะห์ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุน
▪️ อสังหาริมทรัพย์: พยากรณ์มูลค่าทรัพย์สินในอนาคต

7. การทำงานร่วมกันและการผสานเครื่องมืออื่น (Collaboration & Integration)

Excel สมัยนี้ไม่ใช่ไฟล์เดี่ยว ๆ อีกต่อไป แต่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นได้ เช่น CRM, ERP, Power BI
ทำให้ทีมที่อยู่คนละที่สามารถทำงานบนไฟล์เดียวกันได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Cloud

AI ยังช่วยแปลงและสรุปข้อมูลให้เข้ากับระบบอื่นได้อัตโนมัติ ลดปัญหาความไม่เข้ากันของข้อมูล และทำให้การสื่อสารระหว่างทีมง่ายขึ้น

ตัวอย่างการใช้งานจริง:
▪️ ทีมขาย: เชื่อม Excel กับ CRM เพื่อติดตามลูกค้า
▪️ ฝ่ายการเงิน: ผสาน Excel เข้ากับ Power BI เพื่อสร้างภาพข้อมูล
▪️ บริษัทที่ปรึกษา: ทำงานร่วมกันบนรายงานและพรีเซนเทชันทางธุรกิจ

สรุป: Excel ยัง “ยืนหนึ่ง” ในโลกธุรกิจ

จาก Use Cases ทั้งหมด จะเห็นได้ว่า Excel มีความสามารถที่หลากหลายและครอบคลุมการทำงานแทบทุกด้านในองค์กร และยังคงเป็นหัวใจขององค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับ AI ที่ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลได้มหาศาล

ใครที่อยาก “เปิดใจให้ Excel อีกครั้ง” เพื่อเสริมทักษะวิเคราะห์ข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อย่าพลาด! คอร์สเรียน ExcelPro: Empower Your Daily Efficiency รุ่น 3 คอร์สเดียวที่ “ไม่ได้สอนแค่ Excel” แต่สอนให้คุณใช้ AI ช่วยเขียนสูตรแบบไม่ต้องจำ

เปิดรับสมัครแล้ว! ดูรายละเอียดและสมัครเรียนได้ที่นี่ : https://www.truedigitalacademy.com/course/excelpro-empower-your-daily-efficiency

Share